Wednesday, July 6, 2022

รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "พ่อแต๊ก" บิดาของหนุ่ม "นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์" จึงถูกศาลออกหมายจับในข้อหาพยายามฆ่า หลังใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่คนขับรถบรรทุก ดูหนังซับไทย



พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บังคับการปฎิบัติการพิเศษหรือคอมมานโด กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ เป็นการกราดร้างคดีค้างเก่า ภายใต้ “ยุทธการปราบปรามคนพาล” โดยมีการบุกเข้าตรวจค้นที่คนร้าบหลบซ้อนตัวรวม 19 จุดทั่วประเทศ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 17 รายรวม 17 คดี โดยคดีสำคัญ อาทิ คดีของ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "พ่อแต๊ก" บิดาของหนุ่ม "นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์" ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหา ถูกตำรวจกุมดำเนินคดี หลังก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาดจุด 22 กราดยิงคนขับรถ 10 ล้อ หน้ารีสอร์ตจังหวัดเชียงใหม่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว (2560) ซึ่งคดีนี้ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษาจำคุก นายวรเชษฐ เป็นเวลา 5 ปี แต่ นายวรเชษฐหลบหนีประกันในชั้นฎีกา ซึ่งต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกนายวรเชษฐเป็นเวลา 5 ปี เมื่อปลายปี 64




ทั้งนี้ในระหว่างที่หนีประกันในชั้นฎีกา นายวรเชษฐยังใช้ชีวิตในบ้านพักตามปกติในจังหวัดนนทบุรี พร้อมเปิดช่องยูทูบจนมีชื่อเสียงโด่งดังมีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก จึงเป็นช่องทางให้ตำรวจตามตัวจับกุมนายวรเชษฐได้ ซึ่งจากการสอบปากคำ นายวรเชษฐ ให้การว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง และกล่าวอีกว่าตน ไม่ได้มีเจตนากราดยิงใส่คนขับรถ 10 ล้อ ซึ่งเหตุดังกล่าวเป็นเหตุปืนลั่นเท่านั้น และที่เปิดช่องยูทูปเพราะเข้าใจว่าคดีของตนสิ้นสุดแล้ว สำหรับขั้นตอนหลักจากนี้ ตำรวจจะคุมต่อนายวรเชษฐส่งเรือนจำตามคำพิพากษาของศาลฎีกา  


โดย นายวรเชษฐ คุณพ่อของหนุ่มนิกกี้ มีสีหน้าที่อิดโรย เคร่งเครียดตลอดเวลา และไม่ได้มีการให้รายละเอียดใดๆ กับสื่อมวลชน และยังสวมใส่ชุดเสื้อผ้าชุดเดิมที่ถูกจับกุม ซึ่งในขณะนี้ยังไม่มีญาติหรือทางด้านหนุ่มนิกกี้ปรากฎตัวแต่อย่างใด  ซึ่งในระหว่างที่ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง สภ. และศาลในพื้นที่เกิดเหตุ ผู้สื่อข่าวได้ถามว่าผู้ต้องหารู้หรือไม่ว่ามีหมายจับ และตอนนี้รู้สึกอย่างไร โดยวรเชษฐ์ หัวเราะก่อนจะตอบว่า "สู้ๆ นะ สบายมาก"

แจ้งเตือนทุกอำเภอ-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมเผชิญเหตุสึนามิ

 นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา แจ้งว่า ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ได้ติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์แผ่นดินไหว บริเวณหมู่เกาะอันดามันและพื้นที่ใกล้เคียง พบในช่วงวันที่ 4-5 กรกฎาคม 2565 ความถี่ในการเกิดแผ่นดินไหวเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเวลาที่ผ่านมา ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



แต่ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย และยังไม่มีรายงานการเกิดคลื่นสึนามิตามมาแต่อย่างใดนั้น เพื่อเป็นการเน้นย้ำการปฏิบัติ และเตรียมความพร้อมในการเผชิญเหตุกับสถานการณ์สึนามิ ทั้งในสภาวะปกติและช่วงเวลาที่ต้องมีการเฝ้าระวัง



ทั้งนี้ จังหวัดพังงา โดยกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา จึงให้นายอำเภอทุกอำเภอ (ยกเว้นอำเภอกะปง) แจ้งประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ อาสามสมัคร จิตอาสา และภาคีเครือข่าย ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ประชาชนทราบ


โดยยึดข้อมูลข่าวสารที่ออกโดยหน่วยงานราชการเป็นหลัก และเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ตามแผนเผชิญเหตุสึ นามิของอำเภอ ทั้งนี้ให้จัดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบประจำอำเภอ ที่พร้อมประสานการปฏิบัติเมื่อได้รับการแจ้งเตือนหรือเกิดสถานการณ์ได้ตลอดเวลา


โดยประสานการปฏิบัติกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพังงา ทางโทรศัพท์/โทรสาร หมายเลข 0 7646 0607

Monday, July 4, 2022

แม่เผยคำพูดสุดท้ายของลูก ก่อนออกไปเที่ยวถูกรุมกระทืบเสียชีวิต

 นางบุญร่วม อายุ 62 ปี ชาวตำบลหนองกี่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ พร้อมครอบครัว ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ทองสุข โปร่งทะเล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.หนองกี่ ให้ดำเนินคดีกับการ์ดร้านอาหารดังแห่งหนึ่งในอำเภอหนองกี่ หลังจากได้พากันรุมทำร้ายร่างกายนายไพฑูรย์ อายุ 36 ปี ลูกชายของตัวเอง ขณะไปเที่ยวกับเพื่อนที่ร้านดังกล่าว เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ข่าวบันเทิง



จนนายไพฑูรย์ ลูกชายอาการสาหัส ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์ หมอบอกว่ามีอาการเส้นเลือดคลั่งในสมอง โดยรักษาได้เพียง 2 วันก็เสียชีวิต ซึ่งพยานยืนยันว่าคนที่ทำร้ายนายไพฑูรย์ เป็นการ์ดร้านอาหารที่ผู้ตายไปเที่ยว ญาติเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับการ์ดที่ทำร้ายร่างกายนายไพฑูรย์ จนเสียชีวิต 



จากการสอบถาม น.ส.ส้มลิ้ม อายุ 29 ปี น้องสาวของผู้ตาย บอกว่า ที่มาแจ้งความเพราะอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะเกรงว่าเรื่องจะเงียบและพี่ชายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะหลังจากที่พี่ชายถูกทำร้ายสาหัส ตนก็พยายามหาข้อมูลหลักฐาน จนทราบว่าถูกการ์ดในร้านอาหารที่พี่ชายไปเที่ยวกับเพื่อนรุมทำร้ายจนสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตที่ รพ.  



น.ส.ส้มลิ้ม ยังพูดทั้งน้ำตาด้วยว่า อยากให้นำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย มันโหดร้ายเกินไป เพราะคนที่เห็นเหตุการณ์เขาบอกว่า พี่ชายโดนรุมกระทืบ ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นการ์ดแต่ก็ไม่ใช่จะมารุมทำร้ายร่างกายใครก็ได้ อยากให้เขาได้รับโทษกับสิ่งที่เขาทำ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับพี่ชายที่เสียชีวิตไปแล้ว



และที่น่าสงสารคือหลาน 2 คน อายุ 10 ขวบ และ 16 ปี ซึ่งเป็นลูกของพี่ชายที่ต้องมากำพร้าทั้งพ่อ และแม่ที่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้ แล้วเท่าที่ทราบการ์ดที่ทำร้ายพี่ชาย ก็เป็นคนรู้จักเป็นเพื่อนกันด้วย แต่ทำไมถึงทำร้ายกันได้ขนาดนี้


ด้าน นางบุญร่วม อายุ 62 ปี แม่ของผู้ตาย เล่าว่า คืนวันเกิดเหตุลูกชายบอกว่าจะไปงานศพเพื่อนที่รู้จักกัน และก็จะแวะไปเที่ยวกับเพื่อนด้วย ก็ยังมาขอเงินแม่อยู่ ซึ่งตนก็ให้ไป 300 บาท ซึ่งก่อนจะออกไปลูกชายก็ยังไปพูดเล่นกับญาติว่า "จะไปเที่ยวเป็นวันสุดท้ายแล้ว" ตนก็ไม่ได้คิดว่าคำพูดของลูกจะเป็นลางบอกเหตุ และจะเป็นคำพูดสุดท้ายของลูก


กระทั่งช่วงประมาณตี 2 กว่าๆ ก็มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกทำร้ายร่างกายอาการสาหัส ถูกนำตัวส่ง รพ.บุรีรัมย์ กระทั่งล่าสุดก็เสียชีวิต ก็รู้สึกเสียใจมากไม่คิดว่าลูกจะจากไปเร็วขนาดนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด 


ขณะที่ นายพร้อมพงษ์ อายุ 37 ปี เพื่อนของผู้ตายซึ่งไปเที่ยวร้านเดียวกัน แต่นั่งคนละโต๊ะ เล่าให้ฟังว่า คืนวันเกิดเหตุตนเห็นผู้ตายไปนั่งดื่มที่ร้านดังกล่าว ซึ่งตนก็ไปแต่นั่งอยู่กันคนละโต๊ะ กระทั่งประมาณเที่ยงคืนก็เห็นนายไพฑูรย์ ผู้ตายมีปากเสียงกับการ์ดในร้าน ทั้งสองก็ท้าชกต่อยกัน ตอนแรกก็ชกกันตัวต่อตัว โดยมีการ์ดคนหนึ่งถือปืนขึ้นมาขู่ห้ามใครเข้ามาช่วย จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย


แต่เท่าที่จำได้นายไพฑูรย์ไม่ได้ถูกการ์ดคนเดียวทำร้าย น่าจะมีการรุมทำร้ายจนเกิดชุลมุน จนนายไพฑูรย์ล้มลงกับพื้นบาดเจ็บ ก็ยังมีคนไปรุมทำร้ายอีกจนอาการสาหัส และเสียชีวิตในที่สุด ซึ่งทั้งตนเอง ผู้ตาย และการ์ดคนที่ทำร้ายก็รู้จักกันเป็นเพื่อนกัน ก็ไม่คิดว่าจะทำกันรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ก็อยากให้มารับโทษตามกฎหมาย


ล่าสุด จากข้อมูลทราบว่าการ์ดที่มีปากเสียงและชกต่อยกับผู้ตาย ชื่อนายน้อย มีรายงานว่าได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนแล้วในช่วงเย็น (4 ก.ค.) อยู่ระหว่างตำรวจสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หญิงม่ายสาวเจ้าของร้านชำถูกฆ่าปาดคอ พ่อเข้าไปเจอศพลูก ใจแทบสลาย

 ฆ่าปาดคอม่ายสาวเจ้าของร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน พ่อไม่เห็นตื่นมาเปิดร้าน เปิดประตูเข้าไปถึงกับผงะ พบลูกสาวนอนหงายจมกองเลือดบนที่เตียงนอนโซฟา ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. เกิดเหตุอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้รับแจ้งจาก นายหวัน อายุ 74 ปี พ่อของผู้ตาย ว่าเกิดเหตุฆาตกรรมเจ้าของร้านขายของชำ ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 บ้านป่งไฮ ต.ป่งไฮ อ.เซกา จ.บึงกาฬ



ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ด้านล่างเปิดเป็นร้านขายขอชำ ตั้งอยู่กลางชุมชนใจกลางหมู่บ้าน มีชาวบ้านมามุงดูเหตุการณ์ต่างวิภากษ์วิจารณ์ พร้อมทั้งเอ่ยถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกรรายนี้กันไปต่างๆ นานา




ที่ด้านหลังแผงวางสินค้าติดทางขึ้นบันไดชั้น 2 พบภาพสยองขวัญของ นางอนัญญา หรือ เจ๊แดง อายุ 47 ปี ลูกสาวผู้โทรแจ้ง 191 เป็นเจ้าของบ้านและเจ้าของร้านชำ ถูกคนร้ายใช้ของมีคมปาดคอเป็นแผลเหวอะหวะหวิดขาดน่าสยดสยอง นอนหงายจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนโซฟา สภาพศพใส่เสื้อแขนสั้นคอวีสีน้ำตาล กางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ เสื้อยืดถูกรื้อขึ้นมาถึงใต้ราวนม



ตรวจสอบทรัพย์สินที่หายไปมี สร้อยคอหนัก 3 บาท สร้อยข้อมือ 1 บาท แหวน 2 วง โทรศัพท์ยี่ห้อ OPPO 1 เครื่องและกระเป๋าใส่เงินที่ขายของได้คาดว่าจะหลายหมื่นบาท เนื่องจากเป็นการขายของกินของใช้ใน 2 วันคือวันศุกร์และวันเสาร์ จะนำเงินที่ขายได้ไปฝากธนาคารในบ่ายของวันจันทร์



หลังจากชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปตรวจหาบาดแผลและการเสียชีวิตอีกครั้งที่ รพ.เซกา แต่ญาติๆ ยังข้างคาใจในประเด็นการเสียชีวิต ว่าเป็นการถูกปาดคอก่อนเสียชีวิตหรือเสียชีวิตแล้วคนร้ายจึงลงมือปาดคอ จึงต้องส่งศพไปชันสูตรที่แผนกนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้เช้า


ด้าน นางเสริม อายุ 57 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ผู้ตายเป็นคนใจดี ใครที่มาซื้อสินค้าด้วยหากไม่มีเงินแกก็ให้เอาไปก่อนค่อยมาจ่ายทีหลัง


เช่นเดียวกับ นางณัทรมน อายุ 39 ปี เพื่อนบ้าน กล่าวว่า ก็สนิทกันผู้ตายคงไม่ไปผิดอกผิดใจกับใครหรอก แค่เป็นคนพูดเสียงดังเฉยๆ ไม่มีพิษมีภัยกับใคร ทุกเช้าแกก็จะตื่นไปตลาดทุกวัน กลางคืนหลังจากปิดร้านแล้วประมาณ 4-5 ทุ่ม ก็จะไม่เปิดขายให้ใคร ยกเว้นคนที่สนิทกันจริงๆ ถึงจะยอมเปิดขายให้ เพราะต้องระวังตัวเนื่องจากอยู่บ้านคนเดียว

ทางด้าน พ.ต.อ.อารัก มะสาธานัง รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าคืนที่ผ่านมาประมาณ 4 ทุ่ม ร้านยังเปิดปกติมีลูกค้ามาซื้อของอยู่ น่าจะปิดร้านประมาณ 5 ทุ่ม และก็มาพบกลายเป็นศพในช่วงเช้า


เมื่อนายหวัน บุญปากดี พ่อของผู้ตายไปปลุกพบว่าถูกคนร้ายใช้ของมีคมปาดคอหวิดขาดแล้ว และผู้ตายก็อยู่ในบ้านร้านค้าเพียงคนเดียว เนื่องจากได้หย่าขาดกับสามีไปเมื่อ 6 ปีก่อน และอาศัยอยู่ที่ร้านกับหลาน แต่วันเกิดเหตุหลานไม่ได้มาอยู่ด้วย ซึ่งได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บ DNA จากรอยเลือด และลายนิ้วมือในที่เกิดเหตุ


ส่วนด้านนอกบ้านกำลังให้ชุดสืบสวนไล่ดูตามกล้องวงจรปิดในมุมต่างๆ เหตุฆาตกรรมครั้งนี้ตั้งไว้ที่ประเด็นการฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ประเด็นเดียวไว้ก่อน ซึ่งคดีนี้ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจมาก เพราะเป็นคดีสะเทือนขวัญประชาชนในพื้นที่


ทาง พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 สั่งการให้เร่งคลี่คลายคดีพร้อมส่งตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนลงมาช่วยติดตามคนร้ายอีกแรง ขณะนี้ก็กำลังไล่สอบสวนบุคคลที่ต้องสงสัยอยู่ คงไม่เกินความสามารถของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะติดตามไล่ล่าได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในเร็วๆ นี้แน่นอน

Saturday, July 2, 2022

ด่วน! ระเบิดร่วงจากเครื่องบินรบเมียนมา ตกลงกลางบ้านดับสลด 3 รายที่เมียนมา

 เมื่อวันที่ 1 ก.ค. ทางเจ้าหน้าที่ไทยในหมู่บ้านหมื่นฤาชัย ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดจากเครื่องบินรบของทหารเมียนมาไม่ทราบชนิดไปตกใส่กลางบ้านของ นายจอราโด้ ผู้ใหญ่บ้าน ที่หมู่บ้านทิบาโบ จ.เมียวดี ฝั่งประเทศเมียนมา ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



มีผู้ได้รับบาด 3 คน และผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่ทั้งหมดกำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ภายในบ้าน ต่อมาได้ประสานมายังฝั่งประเทศไทย ขอผ่อนปรนนำคนเจ็บ 3 คน โดยสารเรือข้ามแม่น้ำเมยมาส่งในฝั่งไทย เพื่อส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ไทยได้ยินยอมให้ข้ามฝั่งมาได้ ส่วนผู้เสียชีวิตได้นำศพไว้ฝั่งเมียนมา เพื่อทำพิธีศพตามประเพณีต่อไป


ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ไทยแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน มีเอกสารของทางการไทยออกให้มีบัตรประชาชนไทย 1 คน คาดว่าจะเป็นราษฎรในพื้นที่ไปมีครอบครัวฝั่งเมียนมา นอกจากนี้ยังพบบัตรพื้นที่สูง 1 คน และบัตร 10 ปีอีก 1 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งหมด 3 คน พบบัตรประจำตัวประชาชนไทย 1 คน บัตรพื้นที่สูง 1 คน อีก 1 คนไม่ทราบ ช่วงก่อนเกิดเหตุมีเครื่องบินรบมิก 29 ของทหารเมียนมา บินมาปฏิบัติการโจมตีฝ่ายต่อต้านทางอากาศ จนมีระเบิดตกลงใส่กลางหลังคาบ้าน ในช่วงที่ทุกคนในบ้าน กำลังรวมกลุ่มกันทานอาหารเย็นอยู่

ด้านพลตรีประสาน แสงศิริรักษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมทหาร และตรวจสถานการณ์การสู้รบระหว่างฝ่ายต่อต้านทหารเมียนมา กับ ทหารเมียนมา ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.พบพระ จ.ตาก โดยจุดแรกได้เดินทางไปยังกองร้อยทหารราบที่ 1413 ฐานบ้านมอเกอร์ไทย ต.วาเล่ย์ เพื่อดูการสู้รบฝั่งเมียนมา จากนั้นเดินทางไปยังพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 จุด มีผู้ลี้ภัยสงคราม ประมาณ 470 คน ที่บ้านวาเล่ย์ใหม่ และบ้านมอเกอร์ไทย จากนั้นร่วมกับนายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ จ.ตาก และกิ่งกาชาด อ.พบพระมอบข้าวสาร อาหารแห้ง ให้กับผู้ลี้ภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม


ภายหลัง พลตรีประสาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังคงมีการสู้รบในประเทศเพื่อนบ้าน และไม่มีการใช้เครื่องบินรบล้ำน่านฟ้าไทยแล้ว เพราะทางไทยได้ประสานไปแล้วทั้งในระดับสูง และระดับท้องถิ่น นอกจากนี้ได้กำชับให้ทหารดูแลประชาชนอย่างดี ส่วนผู้ลี้ภัยที่ข้ามมานั้น บางส่วนได้ขอกลับไปแล้ว ในจุดที่ไม่มีการสู้รบ เพราะเป็นห่วงบ้านเรือนและทรัพย์สินในฝั่งเมียนมา

รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "...