Wednesday, June 29, 2022

นับถือกู้ภัยใจกล้า มัดศพติดหลังขับมอไซค์ลงจากป่า

 จากกรณีกลุ่มข่าวสารเวียงป่าเป้า มีการแชร์ภาพข่าวของนายจตุรนต์ ดวงรัตน์ ชื่อเล่น น้องฟลุ๊ค เป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์อำเภอเวียงป่าเป้า ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าบง ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า ข่าวประจำวัน



แอดมินของกลุ่มได้สอบถามข้อมูลจากน้องกรณีดังกล่าว น้องฟลุ๊ค เปิดเผยว่า "เป็นเคสเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2565 เคสนี้กู้ภัยสยามได้รับแจ้งจาก สภ.แม่เจดีย์ ว่ามีผู้เสียชีวิตอยู่ในป่า บริเวณบ้านจำบอน ต.แม่เจดีย์ใหม่ จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุราวประมาณ 55-60 ปี




ซึ่งทางเข้าป่าต้องใช้รถโฟวิลเข้าเท่านั้น ทางเรามีแต่รถตู้พยาบาลไม่สามารถเข้าไปได้ จึงได้ใช้มอเตอร์ไซค์ของชาวบ้านขับเข้าไปในป่าระยะทางประมาณ 6-7 กม. เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ตามภาพที่เห็นดังกล่าวเลยครับ


ทั้งนี้ น้องฟลุ๊ค ยังทิ้งท้ายด้วยประโยคที่เป็นจิตอาสา ว่า #จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุดครับ"

Tuesday, June 28, 2022

ช็อก! ผู้อพยพตายหมู่เกือบ 50 ศพ บนรถบรรทุกที่จอดทิ้งไว้ในรัฐเท็กซัส

 นายแอบบอตต์ กล่าวว่า รถบรรทุก 18 ล้อคันดังกล่าวถูกใช้ในการขนส่งผู้อพยพ โดยเหตุโศกนาฏกรรมครั้งนี้ถูกพบในพื้นที่ซึ่งยังไม่มีการพัฒนาในเมืองซานอันโตนิโอ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐเท็กซัส โดยจุดที่พบอยู่ใกล้กับทางรถไฟ รีวิวการ์ตูนอนิเมะ



สำนักงานบริการด้านสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐ รายงานว่า สภาพอากาศที่ร้อนจัดอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้อพยพเหล่านี้เสียชีวิต โดยเมื่อวันจันทร์อุณหภูมิในพื้นที่ดังกล่าวสูงถึง 101 องศาฟาเรนไฮต์หรือราว 38.33 องศาเซลเซียส


ทั้งนี้ นายแอบบอตต์ กล่าววิจารณ์ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่า เป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียชีวิตของผู้อพยพ เนื่องจากประธานาธิบดีไบเดนปฏิเสธที่จะบังคับใช้กฎหมายกับผู้อพยพ


นอกจากนี้ สำนักข่าวซีเอ็นบีซี รายงานว่า เมื่อปี 2560 เกิดเหตุการณ์ผู้อพยพเสียชีวิต 10 รายภายในรถบรรทุกที่อัดแน่นไปด้วยผู้คนจำนวน 39 ราย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นก็เกิดขึ้นในเมืองซานอันโตนิโอ ท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดในฤดูร้อน โดยนายเจมส์ แมทธิว แบรดลีย์ จูเนียร์ คนขับรถบรรทุกวัย 60 ปี รับสารภาพในข้อหาสมรู้ร่วมคิดและทำการขนส่งผู้อพยพ แม้ภรรยาของเขาเปิดเผยว่า นายเจมส์ไม่รู้จักกับผู้อพยพที่อยู่ในรถบรรทุกคันดังกล่าวก็ตาม

Monday, June 27, 2022

เด็กป.6 ข่มขืนเด็กป.5 "ผอ.บอกไม่ท้องหรอก ห้ามบอกผู้ปกครอง!!"

เกิดเหตุเด็กนักเรียนชายชั้น ป.6 ข่มขืน เด็กนักเรียนหญิง ชั้น ป.5 อายุ 11 ปี ที่ภายในอาคารเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 21 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา แต่ทางด้านผู้อำนวยการโรงเรียน บอกกับเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) ว่า อย่าเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครองเด็ดขาด เพราะทาง ผอ.จะเสียหายได้ ซึ่งเด็กหญิงบี ก็ทำตามที่ ผอ.บอก คือไม่ยอมบอกผู้ปกครอง ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย



จนกระทั่งเมื่อช่วงเย็นของวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางผู้ปกครองเด็กบังเอิญได้ยินเด็กหญิงบีกำลังคุยปรึกษากับพี่ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันว่า จะทำยังไงดี ผอ.ไม่ให้บอก ให้ปิดเป็นความลับ ทางผู้ปกครองจึงได้เรียกเด็กหญิงบี มาสอบถามว่า มีเรื่องอะไรกันที่โรงเรียน เด็กหญิงบี จึงได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผู้ปกครองทราบ เมื่อทางบ้านเด็กหญิงบี ทราบเรื่อง ต่างก็ตกใจกันทั้งบ้าน และได้ปรึกษากันภายในกลุ่มญาติ ก่อนเชิญผู้ใหญ่บ้านมาพูดคุย ถึงปัญหาที่เกิดเหตุว่า มันไม่สมควรที่จะเกิดภายในโรงเรียนได้ และยังเกิดเหตุในเวลาราชการที่เด็กอยู่ในความดูแลของครูในโรงเรียน อีกทั้ง ผอ.โรงเรียน ยังไม่ให้เด็กบอกผู้ปกครองอีก



ต่อมาในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 25 มิถุนายน 2565 ชาวบ้านจึงได้รวมตัวกันเดินทางไปที่โรงเรียน เพื่อพบกับ ผอ.โรงเรียน พูดคุยเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น และทางชาวบ้านก็ได้ปรึกษาและลงความเห็นให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียน เพราะรับกับพฤติกรรมดังกล่าวไม่ได้


ด้าน นางสาวเอ (นามสมมุติ) น้าของเด็กหญิงบี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ตามที่ได้พูดคุยกับหลาน วันนั้นหลังจากเกิดเรื่อง เด็กหญิงบี ก็วิ่งร้องไห้ไปบอกครูคนหนึ่ง และครูก็พาเด็กหญิงบี ไปบอกกับ ผอ.แต่ทาง ผอ. กลับบอกกับเด็กว่า ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ปกครอง เพราะจะทำให้ทาง ผอ.เสียหายได้ และอีกอย่างก็ไม่ท้องหรอก กระทั่งเมื่อวานนี้ พวกตนและชาวบ้านคนอื่นๆ รวม 30 คน เดินทางไปที่โรงเรียน ทาง ผอ. กลับพูดอีกอย่างคือ บอกว่าไม่ได้ห้ามเด็กไม่ให้บอกผู้ปกครอง แต่บอกว่าอย่าเพิ่งบอก ซึ่งตนไม่รู้ว่าคำว่าอย่าเพิ่งบอก คือเมื่อไหร่ หรือต้องให้เกิดเรื่องแบบนี้กับเด็กคนอื่นภายในโรงเรียนอีก ถ้าไม่เค้นถามจากเด็กป่านนี้ผู้ปกครองก็คงไม่มีใครทราบเรื่อง

นางสาวเอ บอกอีกว่า เมื่อ 2 ปีก่อน เด็กชายเอ็ม (นามสมมุติ) ที่ก่อเหตุ ก็เคยมีพฤติกรรมชอบไปกอด หอม และจับหน้าอกเด็กนักเรียนหญิง มาแล้ว ถึง 5 คน ซึ่งตอนนั้นทางปกครองเด็กชายเอ็ม ก็ได้ตักเตือนลูกหลานเขาแล้ว เรื่องก็เงียบไปเหมือนจะดีขึ้น จนกระทั่งล่าสุดมาเกิดเรื่องขึ้นกับหลานสาวตน ถึงขึ้นมีอะไรกัน ซึ่งเด็กชายเอ็ม ได้ใช้กำลังลงมือข่มขืนหลานสาวตนเอง เด็กวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากครู แต่คนที่เป็นครู และเป็นถึงผู้อำนวยการโรงเรียน กลับแนะนำเด็กแบบนี้ ซึ่งตนรับไม่ได้จริงๆ


ด้านยายของเด็กหญิงบี ผู้เสียหาย บอกว่า ตั้งแต่รู้เรื่องตนก็นอนไม่หลับ เป็นกังวล กลัวหลานสาวจะท้อง เพราะเขามีประจำเดือนแล้ว และเป็นห่วงจิตใจหลานสาว กลัวว่าจะโดนเพื่อนล้อ แล้วหลานตนจะอยู่ในสังคมได้ยังไง และที่สำคัญรับไม่ได้กับคำพูดของ ผอ.โรงเรียน ที่ห้ามเด็กไม่ให้บอกทางบ้าน ตนรับไม่ได้จริงๆ เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องมาปิดบัง ทำไมคนเป็นถึง ผอ.โรงเรียน คิดได้แค่กลัวว่าตัวเองจะเสียหายแค่นั้นเหรอ แล้วทำไมไม่คิดถึงสภาพจิตใจของเด็กบ้าง


ขณะที่ผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง บอกว่า ทราบเรื่องชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ผอ.โรงเรียน ตนในฐานะผู้นำท้องถิ่นคนหนึ่งและเป็นคนกลาง จึงได้เดินทางไปร่วมฟัง โดยเรื่องดังกล่าว ทาง ผอ.โรงเรียน ยอมรับผิด แต่ผิดยังไงนั้น ผอ.แกไม่พูด ทางด้านชาวบ้านจึงได้ยกมือลงความเห็นกันว่า ให้ ผอ.ย้ายออกไปจากโรงเรียน เพราะรับไม่ได้กับการแก้ไขปัญหาของ ผอ. ส่วนข้อเสียอื่นๆ ที่มีคนพูดกันเกี่ยวกับ ผอ.นั้น ตนไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะเป็นเรื่องภายในโรงเรียน แต่ตั้งแต่ย้ายมาเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนี้ ก็มีการพัฒนาโรงเรียนหลายๆ อย่าง


ล่าสุดทราบว่า ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เก็บของบางส่วนออกไปจากบ้านพักภายในโรงเรียน ซึ่งไม่ทราบว่าไปไหนเช่นกัน 

 

Saturday, June 25, 2022

แม่แตงโม เครียดมากจนต้องโหลดแอฟร้องเพลงมาไว้ร้องแก้เครียด

 เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว โพสต์คลิปเสียงร้องเพลงของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ แตงโม นิดา ดูหนังซับไทย



โดย นางภนิดา ยอมรับว่าตนเองเครียดหลายเรื่องทั้งคดีแตงโม และเรื่องราวยุ่งเหยิงวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้น อัดอั้นร้องไห้อยู่ในใจ จึงเข้าไปร้องเพลง “มัทรีร้องไห้” ในแอปฯ WeSing ใช้ชื่อว่าจุ๋มจิ๋ม เพื่อคลายความทุกข์ใจของตนเอง

ซึ่งได้สื่อออกมาผ่านเพลงนี้ถึงความรู้สึกในใจของคุณแม่ ว่ากำลังร้องไห้ ช่วยให้หายเครียด จนติดอันดับ 1 คืออันดับเพชร มีผู้เข้าฟังถึงปัจจุบัน 1,719 วิว ติดชาร์ตประจำเดือนและท็อปชาร์ตประจำเดือน ซึ่งยังมีเพลงอื่นๆ ที่ร้องไว้ก่อนหน้านี้รวม 459 เพลง


ฟังเพลง  มัทรีร้องไห้ ขับร้องโดย จุ๋มจิ๋ม

เนื้อเพลง มัทรีร้องไห้ ศิลปิน บุษยา รังสี


ยามเย็นจวนค่ำ ตะวันต่ำ อกฉ่ำน้ำตานองใจ

มัทรีครวญคร่ำอาลัย อกใครไม่มีเหมือนเลย

เฝ้าคิดหมายชู้ชายชื่นเชย เขาไม่รักเราก็รู้

ยังชื่นชูหวังชื่นชม กรรมใดนะเรา

จึงเศร้าหทัย กรรมใดนะให้ดวงใจขื่นขม

ฝากใจดินฟ้าสายลม ชักพาคู่ชมให้ฉัน

ช่วยนำชักรักมาโดยพลัน สวมรักมั่นเป็นสร้อยสวมใจ


มัทรีร้องไห้ไม่สร่างเลย อกเอยแต่เช้าจนเย็น

น้ำค้างพรมพร่ำฉ่ำเย็น ดั่งเป็นน้ำตาอาลัย

โอ้ดินฟ้านั้นคงเศร้าใจ ฟ้าฉ่ำร้องเสียงระงม

ฉันยิ่งตรมใจยิ่งครวญ ดินจะคงหลงชม

งมรักเรื่อยไปเราจะคง ร้องไห้อาลัยกำสรวล

ตราบสิ้นดินฟ้าจันทร์นวล มิสิ้นรัญจวนใจสวาท

โอ้ตะวันลับลาพาอนาถ เหมือนรักขาดนิราศหัวใจ

Friday, June 24, 2022

ชัชชาต แจ้งหากมีเรื่องทุจริตให้ไล่ออกจะไม่มี "ได้ครับพี่ ดีครับนาย"

 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวให้โอวาทแก่ข้าราชการบรรจุใหม่ ณ ห้องบางกอก อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (ดินแดง)  ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19




โดยระบุว่า พวกเราเป็นกำลังสำคัญ กทม.ต้องฝากในมือพวกเรา พร้อมตั้งคำถามกับบุคลากรว่า “เปลี่ยนอะไร สำคัญที่สุด” จากนั้นได้หยิบยกเนื้อหาจากหนังสือ Think Again ของ Adam Grant มาอธิบายว่า เราต้องสงสัยในสิ่งที่รู้ อยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่เราไม่รู้ และปรับความคิดให้ทันสมัยตามข้อมูลใหม่ที่ได้




โดยช่วงหนึ่งของการให้โอวาท นายชัชชาติ กล่าวถึงประเด็นการทุจริตในองค์กร พร้อมกล่าวว่า การทำงาน กทม. ไม่ควรเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน หากมีการทุจริตจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด และไล่ออก


“ผมจะไม่ทำกับพวกเราเหมือนคนในครอบครัว กทม.ดูแลกันเหมือนทีมดีแล้ว เพราะบริษัทควรเป็นเหมือนทีมกีฬาที่ต้องทำงานเป็นทีม” นายชัชชาติ กล่าว


นายชัชชาติ ยังบอกกับข้าราชการบรรจุใหม่ถึงคำพูดที่ว่า “ได้ครับพี่ ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน” ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น ถ้ามีอะไรไม่เห็นด้วยให้บอกหรือแสดงความคิดเห็นได้

ผู้ว่าฯ กทม. ยังแนะนำอีกด้วยว่า ให้ถ่อมตนต่อความรู้ที่มี ยำเกรงต่อความไม่รู้ อย่ายึดตึดกับความรู้ที่มี ให้เชื่อมั่นในความสามารถ ในการแสวงหาความรู้ใหม่


นายชัชชาติ ยังระบุอีกว่า ขอให้กล้าที่จะเผชิญความขัดแย้งที่สร้างสรรค์ ความคัดแย้งเรื่องงาน คือ ความคิด ความเห็น ส่วนความขัดแย้งส่วนตัว คือ อารมณ์ เรื่องส่วนตัว พร้อมย้ำว่า การไม่มีความขัดแย้งเลย ไม่ใช่ความราบรื่นแต่เป็น “ความเฉื่อยชา การเฉยเมย การหยุดนิ่ง” และย้ำทิ้งท้ายว่า ต้องเป็นสังคมที่กล้าคิดใหม่และไม่หยุดเรียนรู้

Thursday, June 23, 2022

เผลอแปปเดียว 4 ปีแล้ว สมาชิก 13 หมูป่าร่วมทำบุญครอบรอบวันติดถ้ำหลวง

 ครบรอบ 4 ปี ทีมฟุตบอลหมูป่า อะคาเดมี 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย




ทั้งนี้ นายกสมาคมส่งเสริมการเลี้ยงไก่แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานในพิธีทำบุญครบรอบ 4 ปี ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน และมีผู้บริหารอุทยานฯ ประชาชนทุกหมู่เหล่าในพื้นที่ และ 13 หมูป่าที่ติดถ้ำหลวงเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เข้าร่วมพิธี ข่าวด่วน




ซึ่ง 13 หมูป่า ได้เข้าจุดธูป เทียน เคารพภาพของ “จ่าแซม วีรบุรุษถ้ำหลวง” หรือ นาวาตรี สมาน กุนัน (ยศปัจจุบัน) เจ้าหน้าที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อดีตทหารเรือหน่วยซีล หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ที่ดำน้ำลงไปในถ้ำเพื่อนำถังอากาศไปวางตามจุดต่างๆ จนเสียชีวิตดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้ทางอุทยานฯ ยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปไว้อาลัย หรือชมสถานที่ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีโครงการปรับปรุงพื้นที่อุทยานฯ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางได้โดยสะดวกกว่าเดิม ฯลฯ โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้เข้าเที่ยวชมถ้ำหลวงอีกครั้งในวันที่ 1 ต.ค. 2565 เป็นต้นไป

Wednesday, June 22, 2022

หดหู่ ครูเยี่ยมบ้านนักเรียนจังหวัดอุดร แทบจะไม่เชื่อว่านี้คือบ้าน!

 จากกรณีครูท่านหนึ่งที่ จ.อุดรธานี โพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อว่า Chatchawan pimpa เปิดเผยเรื่องราวของครอบครัว 5 ชีวิต ที่ไร้บ้าน โดยบอกว่า "จากที่ได้ไปสำรวจออกเยี่ยมบ้านนักเรียน เจอสภาพความเป็นอยู่น้องแล้ว สงสารมาก ไม่มีน้ำไม่มีไฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด ที่อยู่ก็มีคนให้มาอยู่ฟรี สร้างกระต๊อบเล็กๆ อยู่ แม่น้องทำงานคนเดียว รีวิวการ์ตูนอนิเมะ



จากการสอบถามทราบว่าพ่อเป็นโรคลมชักจึงทำงานหนักไม่ได้ ไม่มียานพาหนะ อยู่ในป่ายุงเยอะมาก น้องเป็นเด็กเรียนดีขยันเชื่อฟังครูอาจารย์ กลับมาเลยได้พูดคุยกันในกลุ่มเพื่อนมีผู้มีจิตศรัทธาช่วย บริจาคข้าวสารและเสื้อผ้าให้น้อง ต้องขอขอบพระคุณเพื่อนเอ ด้วยนะครับ วันนี้ได้นำไปมอบให้น้องช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว"




ล่าสุด วันนี้ (22 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปพบครอบครัวดังกล่าว พร้อมด้วย ฉัตรชัย ทองเจริญ ผอ.โรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม และ นายชัชวาล พิมพา ครูประจำชั้นน้องแพรวา พบว่า พ่อแม่และลูกอีก 3 คน คือ นางอุดม อายุ 41 ปี นายอนุสรณ์ อายุ 45 ปี ,ด.ญ.แพรวา อายุ 12 ขวบ, ด.ช.พรเทพ อายุ 4 ขวบ และ ด.ช.พรชัย อายุ 2 ขวบ



โดยทั้ง 5 ชีวิต อาศัยอยู่ในกระต๊อบ ในป่าสักของชาวบ้านที่ใจดีให้อยู่ฟรี สภาพบ้านสร้างเป็นกระต๊อบมุงด้วยสังกะสีเก่า ห้องน้ำก็ใช้กระเบื้องล้อมเอาไว้ ไม่มีโถส้วม ไฟฟ้าก็ไม่มีและน้ำต้องใช้ถังน้ำไปขอน้ำใช้จากชาวบ้าน ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ครอบครัวนี้ คนเป็นแม่ต้องทำงานคนเดียวส่วนสามีเลี้ยงลูกและป่วยเป็นโรคลมชัก



นางอุดม เปิดเผยว่า สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวตนเองตอนนี้ถือว่าลำบากทุกอย่าง ตนเองมีลูก 5 คน ลูก 2 คน ให้อาช่วยเลี้ยงดูที่จังหวัดชัยภูมิ ส่วนอีก 3 คน ตนเองและสามีเป็นคนเลี้ยงดู โดยลูกคนที่ 1 เป็นทหารเกรณฑ์ คนที่ 2 เรียนที่ จ.ชัยภูมิ คนที่ 3 และ 4 เรียนโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี และคนที่ 5 ยังเล็กมีพ่อคอยดูแล



เมื่อเห็นลูกคนอื่นมีความรู้พัฒนาก็อยากให้ลูกตัวเองมีความรู้พัฒนาเหมือนลูกคนอื่น หากเป็นไปได้อยากอยากให้มีคนใจบุญเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องการศึกษาของลูกๆ อยากให้ลูกมีการศึกษาที่ดีถ้าเป็นไปได้ก็อยากมีที่เป็นของตัวเอง เพราะหากตนเองและสามีเป็นอะไรไป ไม่รู้ลูกจะอยู่อย่างไร


นางอุดม กล่าวต่อว่า เดิมทีแล้วตนเองเป็นคนอำเภอวังสามหมอ จังหวัดอุดรธานี มาทำงานในอำเภอเมือง มีสามีแล้วก็ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับสามีที่แห่งนี้ ช่วยสามีเฝ้าสวน หลังพ่อเสียชีวิตพี่สาวก็ขายบ้านขายที่ดินจึงไม่ได้กลับไปที่วังสามหมออีก


การเลี้ยงดูลูกวันเรียนเช้าก็เดินไปส่งเย็นก็เดินไปรับ หลังโรงเรียนรู้ว่าเดินไปส่งโรงเรียนก็ส่งรถมารับ เมื่อลูกเลิกเรียนมาจากโรงเรียนก็ให้ลูกรีบทำการบ้าน เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าและที่นี่ยุงเยอะ


สำหรับอาหารการกินก็อยู่กันแบบขัดสน บางวันก็ไม่ได้กินอาหารครบ 3 มื้อ บางวันลูกก็จะกินข้าวกับน้ำตาลและกะปิ เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยไม่สบายก็เดินไปอนามัยซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน


ทั้งนี้ ตัวเองมีอาชีพเป็นแม่บ้านที่คาเฟ่แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของคาเฟ่ก็เป็นเจ้าของที่ดินที่ให้อยู่อาศัย ได้เงินเดือน 8,000 บาท ส่วนสามีนั้นไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากป่วยเป็นโรคลมชัก ทำได้เพียงหาหน่อไม้ในสวนที่เฝ้าไปขาย

ด้าน นายชัชวาลย์ ทองเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากข้อมูลเบื้องต้นจากครูประจำชั้นหลังได้ออกมาเยี่ยมบ้านนักเรียนในปีการศึกษานี้ว่า พบว่าครอบครัวของนักเรียนชั้น ป.2 และ ชั้นอนุบาล 3 มีความลำบาก


เบื้องต้น ครูได้มีการแจ้งไปยังกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อขอรับการสนับสนุนในกลุ่มก่อน และมีการช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว สำหรับสภาพครอบครัวนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 คน มีเด็กอยู่ในวัยเรียน 3 คน เข้ารับบริการการศึกษาทางโรงเรียนบ้านปากดงส่งเสริมธรรม บ้านปากดง 2 คน อีก 1 คน อายุยังไม่ครบเกณฑ์


สภาพการเป็นอยู่ของครอบครัวนี้ไม่มีไฟฟ้าเนื่องจากอาศัยพื้นที่ของเอกชนอยู่ ไม่มีห้องน้ำ การประกอบอาหารก็ยังใช้ฟืนใช้ถ่าน เครื่องอำนวยความสะดวกส่งเสริมการเรียนต่างๆ ก็ไม่มีรองรับ


ส่วนของการช่วยเหลือทางโรงเรียนได้นำข้อมูลนี้นำเสนอขอทุนการศึกษาพิเศษแล้ว สำหรับผู้ที่ต้องการช่วยเหลือครอบครัวนี้สามารถประสานมาทางโรงเรียนได้ 


ด้าน นายชัชวาลย์ พิมพา ครูประจำชั้นนักเรียน บอกว่า สำหรับน้องแพรวา นักเรียนที่ตนเป็นครูประจำชั้นเป็นคนตั้งใจเรียน นิสัยดี เชื่อฟังครู ส่วนการเรียนนั้นยังถือว่าเรียนไม่เก่ง แต่ยังเป็นคนขยันพัฒนาตัวเอง ซึ่งสังเกตได้จากเวลาสั่งการบ้านจะทำงานเป็นระเบียบ


ตอนที่ออกมาเยี่ยมบ้านนักเรียนครั้งแรก เห็นสภาพแล้วสภาพครอบครัวน่าจะดีกว่านี้ เพราะที่อยู่อาศัยไม่เหมาะสมสำหรับเด็กกำลังพัฒนา เท่าที่สอบถามกับครอบครัวนี้รู้ว่าพื้นที่ที่ครอบครัวนี้อาศัยอยู่นั้นเป็นพื้นที่ของเอกชน ซึ่งเป็นนายจ้างของแม่น้องแพรวา ให้มาอยู่ฟรีโดยให้ช่วยเฝ้าสวน


หลังกลับไปได้โทรมาสอบถามผู้ปกครอง และขออนุญาตนำรูปไปโพสต์ขอความช่วยเหลือกับกลุ่มเพื่อนๆ ซึ่งก็มีเพื่อนซื้อข้าวสาร มุ้ง นม มามอบให้ ล่าสุดมีอาจารย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นอาจารย์เคยสอนตัวเองมอบเงินสดมาให้อีก 2,000 บาท เพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาให้น้องและครอบครัวนี้

Tuesday, June 21, 2022

ตายน้ำตื่น สิบตรีวิ่งราวสร้อยร้านทอง ก่อนเอาไปขายต่ออีกร้าน โป๊ะแตกเจ้าของเป็นพี่น้องกัน

 คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อคลุมแขนยาวแบบมีฮู๊ด สีเทา กางเกงขายาวสีดำ หน้ากากอนามัยสีดำ หมวกปีกสีครีม และรองเท้าแตะสีน้ำเงิน ก่อเหตุวิ่งราวทองรูปพรรณ หนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น มูลค่า 127,400 บาท  ดูหนังซับไทย



หลังทำทีมาขอเลือกซื้อทองรูปพรรณในห้างทองเยาวราช 2 เลขที่ 468-469-470 ม.15 บ.น้ำฆ้อง ถ.พิศาลสารกิจ ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี อาศัยจังหวะเจ้าของร้านทองเผลอ วิ่งหลบหนีไปขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 110 ไอ สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่จอดอยู่ข้างร้าน ซิ่งหลบหนีไปทางสามแยกบ้านพันดอน ก่อนมุ่งหน้าไปถนนมิตรภาพ อุดร-ขอนแก่น


จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี รับทราบ และนำกำลังตำรวจป้องกันและปราบปราม ตำรวจสืบสวนสอบสวนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบนางสาวมีนตรา อายุ 53 ปี เจ้าของร้านทอง และสามี ยืนรอให้การกับตำรวจที่หน้าร้าน พร้อมกับนำตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดขณะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุและหลบหนีไป หลังรับแจ้งตำรวจได้วิทยุสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี ส่วนเจ้าของร้านได้ไลน์แจ้งไปทางกลุ่มผู้ประกอบการร้านทองในพื้นที่



กระทั่งเวลาประมาณ 14.30 น. วันเดียวกัน นางวีรยา อายุ 50 ปี น้องสาวผู้เสียหาย เจ้าของห้างทองเยาวราช โนนสูง เลขที่ 299/2 ม.11 บ.โนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี แจ้งกลับมาว่ามีผู้ต้องสงสัยนำทองรูปพรรณหนัก 2 บาท มาขายที่ร้าน จำนวน 1 เส้น และมีตำหนิรูปพรรณ พร้อมของกลางตรงกับที่รับแจ้ง หลังรับแจ้งตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี ได้ประสานตำรวจสืบสวน และตำรวจป้องกันและปราบปราม สภ.โนนสูง เข้าตรวจสอบและควบคุมตัวไว้ และให้การรับสารภาพเพียงสั้นๆ ว่า เป็นคนก่อเหตุวิ่งราวจริง เพราะเป็นหนี้ ทราบชื่อภายหลังคือ สิบตรี ราชัน อายุ 23 ปี เป็นทหารค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี


หลังจากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางและรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า MSX 125 สีดำ-แดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่ขับขี่นำทองรูปพรรณที่ชิงมาขาย หลังจากใช้รถจักรยานยนต์ของยายไปก่อเหตุวิ่งราวทองรูปพรรณมาจากร้านที่เกิดเหตุ นำตัวไปตรวจยึดทองสร้อยคอทองรูปพรรณอีก 1 เส้น เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ขณะก่อเหตุและหลบหนี ที่เก็บไว้ในบ้านพักภายในค่ายทหารแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ก่อนควบคุมตัวมาตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุที่หน้าบ้าน ม.11 บ.เชียงแหว ต.เชียงแหว อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี นำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ 

นางสาวมีนตรา ผู้เสียหาย เล่าว่า คนร้ายทำทีเป็นลูกค้าเข้ามาขอดูทองภายในร้าน จึงเอาให้ดูสองเส้น แล้วตนก็เอาเก็บ แต่คนร้ายก็ขอดูทองใหม่อีกสองเส้น แล้วทดลองสวมสร้อยคอทองคำ หลังจากนั้นคนร้ายก็วิ่งออกจากร้านไปพร้อมทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น ซึ่งขณะนั้นตนและสามีรู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้จึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ แล้วตนก็ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะดูตำหนิรูปพรรณและยานพาหนะคนร้าย พร้อมกับไลน์แจ้งเหตุในกลุ่มผู้ประกอบการ



 หลังจากนั้นตนก็ทราบว่าคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุได้เอาทองไปขายที่ร้านน้องสาวที่หน้าตลาดสดโนนสูง ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี  จึงบอกตำรวจชุดสืบสวน สภ.กุมภวาปี ที่กำลังตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตำรวจจึงประสานไปยัง สภ.โนนสูง เข้าควบคุมตัว ส่วนตนหลังรับแจ้งจากน้องสาว ได้รีบขับรถไปตรวจสอบ พบว่าเป็นสร้อยคอทองคำที่ถูกชิงมาจากร้านของตน และชี้ยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุวิ่งราวทองที่ร้านของตนจริง ซึ่งต่อไปตนคงจะต้องระมัดระวังให้มากขึ้นกว่านี้ ตนก็รู้สึกดีใจที่ตำรวจจับคนร้ายได้ทันควัน


นางวีรยา น้องสาวผู้เสียหาย เปิดเผยว่า คนร้ายมาที่ร้านเวลา 14.30 น. เพื่อมาขายสร้อยคอทองคำ 2 บาท 1 เส้น ตนก็ถามอยู่ว่าสร้อยคอทองคำซื้อมาจากไหน ซึ่งคนร้ายบอกว่าซื้ออยู่ในตัวเมืองอุดรธานี และอ้างว่าพอดีแฟนใส่ได้ไม่กี่วัน แล้วมีเรื่องจำเป็นต้องใช้เงิน ก็เลยเอามาขาย แต่ว่าตนก็ได้มีการติดต่อกันอยู่ในกลุ่มไลน์ผู้ประกอบการร้านทองในพื้นที่ และเห็นว่ามีการก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ร้านทอง เพราะพี่สาวของตนแจ้งเข้ามาในกลุ่ม ทำให้ตนสงสัยเอาไว้ก่อน ซึ่งสร้อยคอทองคำ และตัวคนร้ายนั้นตรงกันกับที่แจ้งในกลุ่มไลน์ และสร้อยทองยังไม่ได้มีการใช้งานมาก่อน และยังดูใหม่

จึงให้สามีคุยถ่วงเวลา และตีราคานานหน่อย ส่วนตนก็เข้าไปโทรศัพท์บอกพี่สาว เพื่อให้พี่สาวแจ้งตำรวจให้มาจับกุม ซึ่งตำรวจ สภ.กุมภวาปี ก็ประสานงานมาที่ตำรวจ สภ.โนนสูง เข้ามาจับกุมคนร้ายที่ร้าน  โดยไม่มีการต่อสู้และขัดขืน ตอนที่คนร้ายอยู่ในร้านตนก็ไม่ได้ล็อกประตู แต่ใช้การพูดคุยกับคนร้ายไปเรื่อยๆ เพื่อรอตำรวจมา และคนร้ายก็คงไม่คิดอะไรมาก และก็ไม่มีพิรุธอะไร พอตำรวจมาคนร้ายก็ยังนิ่งเฉย ซึ่งคนร้ายก็ได้คุยกับตำรวจว่า เป็นคนก่อเหตุมาจริง ส่วนเรื่องสาเหตุที่คนร้ายมาก่อเหตุตนก็ไม่ได้ถามกับคนร้ายมีเพียงคนร้ายพูดว่าเดือดร้อนเรื่องเงิน


พ.ต.อ.พงศ์พันธ์ นาขวา ผกก.สภ.กุมภวาปี เปิดเผยว่า หลังจากรับแจ้งก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบกล้องวงจรปิด และดูลักษณะของคนร้าย ซึ่งคนร้ายใช้รถจักรยานยนตร์เวฟ ล้อแม็ก ใส่เสื้อแขนยาว สวมหมวกปิดบังใบหน้า และสวมรองเท้าแตะ ตามที่กล้องวงจรปิดทางร้านบันทึกเอาไว้ขณะก่อเหตุ จึงได้ประสานรายละเอียดไปในส่วนต่างๆ ของตำรวจ เพื่อที่จะติดตามหาเบาะแส และจับกุมคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาในการจับกุมคนร้ายประมาณ 3 ชั่วโมง เพราะคนร้ายได้เอาทองไปขายที่ร้านของน้องสาวเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ ทำให้สามารถจับกุมคนร้ายได้  ส่วนสาเหตุเบื้องต้นจะนำเงินไปใช้หนี้ และนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหา “วิ่งราวทรัพย์” ต่อไป

Monday, June 20, 2022

สาวนครปฐม รมควันตัวเองเสียชีวิตในรถ ข้างชายหาดเมืองพัทยา

  ร.ต.อ.เศรษฐพล สิงห์นอก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุมีคนฆ่าตัวตายภายในรถ เหตุเกิดบริเวณถนนเลียบชายหาดพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยารีบไปตรวจสอบ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



ที่เกิดเหตุพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซิตี้ สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ต้องทุบกระจกเพื่อเปิดประตูรถ ภายในรถที่เบาะคนขับพบร่าง หญิงสาว อายุ 33 ปี (สงวนชื่อนามสกุล) ชาวจังหวัดนครปฐม เบาะข้างคนขับยังพบเตาอั้งโล่ มีขี้เถ้าจำนวนมาก ยังพบว่ามีกลิ่นควันทั่วรถ เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายร่างออกจากตัวรถ ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด



สอบถามนายอู๊ด อายุ 41 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัย ทราบว่าสังเกตเห็นรถเก๋งมาจอดตั้งแต่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ รู้สึกผิดปกติ จึงเดินไปตรวจสอบ พบว่าคนขับกลายเป็นศพไปเสียแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ



เบื้องต้น ร.ต.อ.เศรษฐพล สิงห์นอก รอง สว.สอบสวน เจ้าของคดี หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียดแล้ว จะได้ติดต่อไปยังญาติของผู้เสียชีวิต เพื่อสอบสวนหาสาเหตุในการคิดสั้นครั้งนี้ต่อไป

Saturday, June 18, 2022

เจ้าอาวาสสายบู๊ รัวหมัดใส่โจรทุบกล่องบริจาคจนโจรทิ้งรถวิ่งหนี

 เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปทุบตู้ ขโมยเงินในตู้บริจาคบนศาลาการเปรียญ ภายในวัดโคกกระต่าย หมู่ 1 ต.บ้านลำ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี โดยพบว่าตู้บริจาคถูกทุบจนเศษกระจกแตกเต็มพื้น และยังมีธนบัตรใบละ 20 บาทตกอยู่ กล้องวงจรปิดบริเวณลานหน้าศาลาได้จับภาพคนร้าย  ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



เป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อคลุมสีดำแขนยาว ทับเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงขายาวสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน-ขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สวมหมวกกันน็อกสีขาว เข้ามาจอด และขึ้นไปขโมยเงินในตู้บริจาคบนศาลาชั้น 2 เสร็จแล้วได้วิ่งหนีลงมาที่รถจักรยานยนต์เตรียมที่จะหลบหนี 



จังหวะเดียวกันนั้น พระชาญณรงค์ กตสาโร อายุ 50 ปี เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่าย  ได้วิ่งตามลงมาทัน ได้กระโดดถีบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายจนล้ม และมีการต่อสู้กับคนร้าย โดยเจ้าอาวาสปล่อยหมัด ซัดมือเปล่ากับโจรอยู่นาน จนมีกรรมการวัดอายุ 70 ปี ที่พักอาศัยอยู่ในวัด ถือไม้ไผ่ยาว 2 เมตรเข้ามาช่วยฟาดคนร้ายหลายครั้ง จนคนร้ายได้รับบาดเจ็บวิ่งหลบหนีไปได้ ทิ้งจักรยานยนต์เอาไว้พร้อมหมวกกันน็อก หน้ารถยังพบกระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง เสื้อคลุมสีดำ ตกอยู่ที่พื้นใกล้กับรถจักรยานยนต์ของคนร้าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิหารแดง เข้าตรวจสอบตรวจค้นในกระเป๋าพบสร้อยคอทองคำจำนวน 2 เส้น เส้นละ 2 สลึง เงินสด 800 บาท จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน



พระชาญณรงค์ เจ้าอาวาสวัดโคกกระต่าย เล่าว่า ได้ยินเสียงเหมือนกระจกแตก จึงเดินไปดู เห็นว่าคนร้ายกำลังเก็บเงินในตู้บริจาคใส่กระเป๋า เมื่อคนร้ายเห็นพระชาญณรงค์ ก็โวยวายวิ่งหนีลงจากศาลาการเปรียญ อาตมาจึงวิ่งตามลงมา ขณะที่คนร้ายกำลังคร่อมรถจักรยานยนต์เตรียมจะหนี อาตมาได้กระโดดถีบรถจักรยานยนต์คนร้ายจนล้ม เห็นแล้วว่าคนร้ายไม่มีอาวุธ จึงเข้าไปฉุดกระชากคนร้ายเพื่อไม่ให้หลบหนี ต่อสู้กับคนร้ายอยู่สักพัก จนมีกรรมการวัดเข้ามาช่วยโดยใช้ไม้ไผ่ยาวประมาณ 2 เมตร ตีคนร้ายหลายครั้ง จนคนร้ายเห็นว่าสู้ไม่ได้จึงวิ่งหลบหนีไป


ต่อมาพระชาญณรงค์พร้อมกรรมการวัดได้เดินทางไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุทิน ศรีอ่อน พนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดงไว้แล้ว เป็นหลักฐาน และคาดว่าสร้อยคอทองคำจำนวน 2 เส้นที่อยู่ในกระเป๋าตกในที่เกิดเหตุคนร้ายได้ไปขโมยมาจากคนอื่นอย่างแน่นอน


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.วิหารแดง ได้กระจายกำลังเร่งติดตามตัวคนร้าย จนสามารถจับกุมตัวได้ ขณะที่เดินหลบหนีอยู่ริมถนนสุวรรณศร ใกล้เคียงปั๊มบางจาก มุ่งหน้า ต.หินกอง อ.หนองแค ห่างจากวัดที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวคนร้ายมายัง สภ.วิหารแดง เพื่อส่งพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำ


คนร้าย คือ นายวินัย อายุ 38 ปี พักอาศัยใน ต.หินกอง อ.หนองแค จากการสอบสวนคนร้าย สารภาพก่อเหตุทุบตู้บริจาคขโมยเงินจริง ได้เงินไปจำนวน 800 บาท เจ้าหน้าที่จะทำการส่งตัวนายวินัยตรวจหาสารเสพติด ส่วนสาเหตุในการก่อเหตุ นายวินัยยังให้การวกไปวนมา เบื้องต้นพนักงานสอบสวน สภ.วิหารแดง ตั้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ และจะนำตัวนายวินัยส่งฟ้องศาลจังหวัดสระบุรีต่อไป

Friday, June 17, 2022

ล้มละลาย !! เรฟลอน ยื่นศาลนิวยอร์กให้พิทักษ์ทรัพย์

 เรฟลอน อิงค์ ยื่นพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลล้มละลายในรัฐนิวยอร์กเมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) จากปัญหาเกี่ยวกับซัพพลายเชน หนี้ปริมาณมาก และการแข่งขันจากคู่แข่งในตลาด ข่าวบันเทิง



บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำอางรายนี้ เผยอีกว่า การยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์ครั้งนี้จะได้รับเงิน 575 ล้านดอลลาร์ (20,100 ล้านดอลลาร์) เพิ่มเติมจากผู้ปล่อยกู้รายปัจจุบัน เพื่อทำให้การบริหารงานแบบวันต่อวันดำเนินต่อไปได้เช่นเดิม



นางสาวเดบรา เพอเรลแมน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเรฟลอน อิงค์ เผยว่า ความต้องการสินค้าของเรฟลอนจากผู้บริโภคยังคงสูง แต่สาเหตุที่ทำให้บริษัทมาอยู่ในจุดนี้ที่มีหนี้มหาศาลเป็นเพราะโครงสร้างทางการเงินในขณะนี้ที่มีความท้าทาย



เรฟลอน อิงค์ เผชิญกับคู่แข่งทั้งที่เป็นบริษัทใหญ่ อย่าง พรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล และเครื่องสำอางจากแบรนด์ของคนดัง อย่างเช่น แบรนด์ ไคลี่ ของไคลี เจนเนอร์ และเฟนตี บิวตี้ ของอดีตนักร้องชื่อดัง ริฮานนา ที่ไม่ต้องใช้เงินในการทำการตลาดมาก เพราะมีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียจำนวนมากอยู่แล้ว


ยอดขายของเรฟลอนยังถูกซ้ำเติมด้วยการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดการล็อกดาวน์ในหลายพื้นที่ทั่วโลก ที่ทำให้การจับจ่ายในศูนย์การค้าซบเซา ขณะเดียวกันกลุ่มผู้บริโภคต้องสวมหน้ากากอนามัย ส่งผลให้ยอดขายลิปสติกลดลงอย่างหนักถึง 21% มาอยู่ที่ 1,900 ล้านดอลลลาร์เมื่อปี 2563 ก่อนฟื้นตัว 9.2% มาอยู่ที่ 2,080 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2565


ถึงอย่างนั้น ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เรฟลอน และแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก ก็เผชิญกับการขาดแคลนวัตถุดิบและสินค้าที่ป้อนเข้าสู่ระบบการผลิต ปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และการขาดแคลนแรงงาน

Wednesday, June 15, 2022

จับแล้ว "หม่อมดิว มัมดิวไดอารี่" ผู้ต้องหาคดี ม.112

 ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. รีวิวการ์ตูนอนิเมะ




เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปอท. ได้ควบคุมตัวนายกิตติคุณ ธรรมกิติราษฎร์ หรือ ดิวไดอารี่ ผู้ต้องหาคดีความผิดตาม ป.อาญามาตรา 112

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาและสอบปากคำ พร้อมให้ผู้ต้องหาใช้สิทธิติดต่อทนายแล้ว โดยเพจเฟซบุ๊ก "มัมดิวไดอารี่" ของนายกิตติคุณ ได้โพสต์ข้อความว่า #Saveมัมดิว ด้วยนะคะ คุณแม่เพิ่งถึง ปอท แล้วค่ะลูก



ต่อมาเวลา 12.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัว “นารา เครปกะเทย” หรือ นายอนิวัติ ประทุมถิ่น มาพบพนักงานสอบสวน บก.ปอท. โดยยังไม่เปิดเผยว่ามาด้วยสาเหตุใด

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชื่อดัง ที่ได้ว่าจ้าง เน็ตไอดอลอย่าง นารา เครปกะเทย , หนูรัตน์ ธิดาพร ชาวคูเวียง และ นายกิตติคุณ ธรรมกิติราษฎร์ หรือ มัมดิวไดอารี่ ใสทำคลิปวิดีโอและภาพนิ่งโปรโมทแคมเปญลดราคาสินค้า แต่ถูกกล่าวหาว่ามีเนื้อหาที่จงใจพาดพิงและล้อเลียนเบื้องสูง 

ตามตัว คู่รักถ่ายคลิปโป๊คู่รักมีเซ็กซ์กันในรีสอร์ตวังน้ำเขียว

 ตามตัวคู่รักไปพักรีสอร์ตและถ่ายคลิปโป๊ ชื่อคลิป “วังน้ำเขียวเสียว..” ในคลิปเป็นภาพชายหญิงคู่หนึ่งกำลังมีเพศสัมพันธ์กันในห้องพักของรีสอร์ตแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย



จากการตรวจสอบพบว่า เป็นคลิปที่เผยแพร่ในแพลตฟอร์มดัง OnlyFans แต่ถูกเซฟออกมาเผยแพร่ต่อภายนอกจนว่อนโซเชียล



โดยหลังจากคลิปโป๊ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไป หลายภาคส่วนใน อ.วังน้ำเขียว ได้ออกมาตรวจสอบกันเป็นการเร่งด่วน โดย นายสุพจน์ แสนมี นายอำเภอวังน้ำเขียว ได้ประสานติดตามเรื่องราวจาก พันตำรวจเอก พีระพงศ์ ธนโพธิ์ชัย ผู้กำกับการ สภ.วังน้ำเขียว แล้ว ซึ่งตอนนี้ ผู้กำกับการ สภ.วังน้ำเขียว ได้สั่งการให้รองผู้กำกับฯ จัดชุดเจ้าหน้าที่ ลงไปสืบสวนหาที่มาของคลิปและสถานที่เกิดเหตุแล้ว เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมารับโทษตามกฎหมาย



เนื่องจากการนำภาพหรือคลิปของตนเองในลักษณะลามกอนาจาร เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันต่างๆ หรือเว็บไซต์อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน รวมถึงกลุ่มลับต่างๆ ที่เปิดรับสมาชิกและมีการเรียกเก็บค่าเข้ากลุ่ม เพื่อรับชมคลิป หรือภาพลามกอนาจาร โดยผู้ที่ปรากฏในคลิป ผู้ผลิต หรือผู้นำคลิปไปเผยแพร่ ได้รับประโยชน์ใดๆ จากผู้อื่นเป็นค่าตอบแทนจากการกระทำดังกล่าวนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย เพื่อประสงค์แห่งการค้าฯ นำเข้า ผลิต เผยแพร่สื่อลามกอนาจารฯ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา 287(1) นอกจากนี้ การนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14(4) ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ด้วย



ด้านนายพงษ์เทพ มาลาชาสิงห์ ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอวังน้ำเขียว บอกว่า การทำกิจกรรมที่ปรากฏในคลิป ถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ตนในฐานะประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยววังน้ำเขียวต้อง ขอประณามกลุ่มบุคคลที่กระทำดังกล่าว เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของอำเภอวังน้ำเขียวด่างพร้อยไปด้วย ซึ่งตนเชื่อว่า ผู้ประกอบการโรงแรม รีสอร์ต ที่พักใน อ.วังน้ำเขียว ไม่ได้มีความต้องการหรือสนับสนุนให้เกิดการทำกิจกรรมเช่นนั้น อยากจะวิงวอนให้ผู้ที่คิดจะกระทำในลักษณะดังกล่าว ได้หยุดการกระทำนั้นเสีย และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เอาผิดและดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป รวมทั้ง เพื่อรักษาชื่อเสียงของเมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตร เมืองที่มีวัดวาอารามของครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพนับถือของชาวไทยและต่างชาติ และเมืองที่มีธรรมชาติอันสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศเอาไว้ด้วย

Tuesday, June 14, 2022

เบนซ์หรู ชนหญิงวัย 63 ปี หัวขาดกระเด็น

 ร.ต.อ.วรภักดิ์ สุภสวัสดิ์ รองสว.สอบสวนสภ.สามโคก ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถนั่งส่วนบุคคลชนคนเดินข้ามถนนเสียชีวิตบริเวณถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทางหลวงหมายเลข347 (มุ่งหน้าบางปะหัน) กม.11+500 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง ดูหนังซับไทย



ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อ นางบุบผา อายุ 63 ปี ร สภาพศพขาขาด ศีรษะขาดกระเด็น ใกล้กันพบรถนั่งส่วนบุคคลยี่ห้อเบนซ์หมายเลขทะเบียน 3กง 556 กรุงเทพมหานคร สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน มีเลือดกระเด็นติดหน้ารถ โดยมี นายวิรัช อายุ 61 ปี คนขับรถยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่



จากการสอบถาม นายวิรัช อายุ 61 ปี คนขับรถ คนขับรถเบนซ์บอกว่าตนเองมาจากกรุงเทพ จะนำชุดครยรับปริญญาไปที่ จ.พิษณุโลก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมืดเพราะไฟส่องสว่างทางดับจึงมองไม่เห็นคนข้ามถนนเลยชนเข้าเต็มแรงทำให้เสียชีวิต



ส่วนนายนิพล อายุ 55  ปี สามีผู้เสียชีวิตบอกว่า ภรรยาทำงานแม่บ้านประกันสังคมโดยจะข้ามถนนตรงนี้เป็นประจำ ซึ่งในวันนี้ก็ไม่นึกว่าจะมาถูกรถชนตายอย่างนี้ ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุบอกว่า ไฟส่องสว่างถนนเส้นนี้ดับมานานแล้วและไม่มีการแก้ไขจึงอยากฝากบอกให้แขวงการปทุมธานีมาเร่งแก้ไขด้วย



ด้าน ร.ต.อ.วรภักดิ์ สุภสวัสดิ์ รองสว.สอบสวนสภ.สามโคก หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วจึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำผู้เสียชีวิตส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรมเพื่อตรวจสอบอีกครั้ง

Sunday, June 12, 2022

ยังเด็กอยู่เลย เด็ก ป.5 ถูกรุ่นพี่ ป.6 กระโดดถีบล้มเรียกเพื่อนรุม

 กรณีลูกชาย เรียนอยู่ชั้น ป.5 ถูกรุ่นพี่ ป.6 จำนวน 4 คน รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งข้อความในโพสต์ ระบุว่า ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



“โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต.หนองหัวแรต อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เด็กนักเรียนรุ่นพี่ ป.6 ทั้งหมด 4 คน รุมทำร้ายเด็กนักเรียน 1 คน ป.5 ซึ่งเป็นลูกชายดิฉันเอง เนื่องจากว่า น้องเล่นโป่งใส่น้ำอยู่ที่อ่างล้างมือ รุ่นพี่เดินมาหลังอ่างน้ำ น้องเผลอปล่อยมือน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่ รุ่นพี่โมโหจึงกระโดดถีบที่หลังน้อง พอน้องล้มหัวเข่ากระแทกถนนซีเมนต์  แล้วชวนเพื่อนอีก 3 คนมาช่วยรุมทำร้าย ทั้งตบหู 2 ข้าง เป็นแผลเลือดออก พอน้องจะลุกขึ้นก็กระโดดถีบซ้ำ ไม่มีโอกาสได้ยืน ทั้งต่อยหลังเขียวช้ำทั่วหลัง หลังจากนั้น น้องไปบอกครูประจำชั้น ครูบอกเดี๋ยวบอกครูชั้น ป.6 ให้ทำโทษ (ครูให้เพื่อนพาไปล้างแผล) ที่ห้องพยาบาลโดยที่เพื่อนล้างให้ (ไม่ใช่ครู) ครูไม่เคยโทร.หาดิฉัน แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น  แต่แจ้ง ผปค.เด็ก 4 คนที่รุมทำร้ายลูกดิฉัน จนกระทั่งน้องเลิกเรียน ตาไปรับเห็นแผลจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น??? คุณคิดว่าเหตุการณ์นี้ควรเกิดขึ้นกับลูกของดิฉันมั้ย??? และถ้าหากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับลูกของคุณควรทำเช่นไร?? ใครควรเป็นผู้รับผิดชอบ??? ขออนุญาต Tag นะคะเพื่อความเป็นธรรม"




ซึ่งล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.65) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนบ้านบุกระโทก ต.หนองหัวแรต อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยพบกับนางรมิตา สีมาพล ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า เหตุเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากครูประจำชั้นว่า มีเด็กนักเรียนชั้น ป.5 หรือน้องกีต้าร์ ได้นำลูกโป่งไปเปิดน้ำที่ก๊อกบริเวณหน้าห้องน้ำ แล้วน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่ ป.6 ที่เดินผ่านมา ทำให้รุ่นพี่ ป.6 ไม่พอใจ จึงได้ผลักหลังของน้องกีต้าร์ จนล้มหัวเข่าถูกับพื้นคอนกรีต ทำให้เกิดแผล และน้องกีต้าร์ได้ไปบอกกับครูประจำชั้น ซึ่งครูได้พาน้องไปทำแผลที่ห้องปฐมพยาบาล โดยก่อนกลับบ้านครูได้ตรวจดูแผลของน้องกีตาร์อีกครั้ง พบว่า มีบาดแผลไม่มากนัก จึงปล่อยให้กลับบ้าน


ส่วนนักเรียนรุ่นพี่ ป.6 ที่ผลักน้องกีตาร์ ทางโรงเรียนฯ ทราบเพียงว่า มีแค่ 1 คนเท่านั้น เพราะน้องจำได้แค่คนเดียว และแจ้งชื่อมาคนเดียว แต่เมื่อโรงเรียนสอบถามเพิ่มเติม ก็พบว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีรุ่นพี่ทั้งหมด 4 คนที่ร่วมมือกัน ทางโรงเรียนจึงนัดผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายให้มาพูดคุยกัน แต่ติดช่วงเสาร์อาทิตย์ จึงไม่สามารถเชิญผู้ปกครองมาพูดคุยได้ จึงได้นัดผู้ปกครองอีกครั้งในวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายนช่วงเช้าที่โรงเรียน  ซึ่งผู้ปกครองของนักเรียนได้มีการพูดคุยกันแล้ว และนักเรียนรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ ก็ได้ขอโทษผู้ปกครองและ น้องกีต้าร์ โดยทั้งคู่ได้มีการจับมือคืนดีกัน ซึ่งปกติทางโรงเรียนจะอบรมสั่งสอนนักเรียนอยู่เสมอในเรื่องการรู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น โรงเรียนก็ต้องทำโทษนักเรียนที่ก่อเหตุ ด้วยการทำทัณฑ์บนไว้ก่อนเพราะกระทำผิดเป็นครั้งแรก และให้นักเรียนที่กระทำความผิด บำเพ็ญประโยชน์ในโรงเรียน โดยการกวาดถนนและทำความสะอาดห้องน้ำ เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพื่อให้เด็กได้สำนึกว่า กระทำความผิดลงไป ซึ่งมีนักเรียนและผู้ปกครอง ลงชื่อรับทราบ

ส่วนผู้ปกครองของน้องที่ก่อเหตุ ก็รับปากกับทางโรงเรียนว่า จะเข้มงวดอบรมสั่งสอนลูกเพิ่มเติม เพื่อไม่ให้ทำความผิดซ้ำอีก ในขณะที่ทางโรงเรียนก็จะเพิ่มมาตรการให้ครูสอดส่องดูพฤติกรรมของนักเรียนให้ถี่ถ้วนมากขึ้น    โดยหลังจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายพูดคุยตกลงกันแล้ว ได้เห็นดีไปในทิศทางเดียวกัน และยอมรับการตัดสินของผู้อำนวยการโรงเรียน


ด้านนางวริสรา หมายใหญ่กลาง ผู้ปกครองของน้องกีต้าร์ ที่ถูกทำร้าย บอกว่า หลังเกิดเหตุทำน้ำกระเด็นใส่รุ่นพี่แล้ว น้องกีต้าร์ ก็ได้ขอโทษรุ่นพี่ แต่รุ่นพี่ยังโมโหอยู่ ก็เลยเกิดเรื่องบานปลายทำร้ายร่างกายกัน และในวันนี้ทางโรงเรียนได้ประสานผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายมารับทราบมูลเหตุและพูดคุยกัน ก็ได้ทำการขอโทษกัน และเซ็นเอกสารรับทราบเป็นลายลักษณ์อักษร เรื่องการทำทัณฑ์บนเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตนยอมรับการตัดสินของผู้อำนวยการ และรับคำขอโทษจากผู้ปกครองเด็กคู่กรณี ส่วนอาการของน้องกีต้าร์ ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหู มีบาดแผลหัวเข่าแตกทั้งสองข้าง เพราะล้มใส่พื้นคอนกรีต และมีรอยฟกช้ำเขียวบริเวณหลัง ก็ต้องรักษาและสังเกตอาการต่อ


ส่วนนางชมพู ผู้ปกครองนักเรียน ป.6 ที่ก่อเหตุ บอกว่า ยอมรับผลตัดสินของผู้อำนวยการโรงเรียน และหลังจากพูดคุยกับอีกฝ่าย ตนก็ยอมรับผิดที่ลูกของตนไปก่อเหตุขึ้น และจะคอยดูแลอบรมสั่งสอนลูก เพื่อไม่ให้ไปก่อปัญหาทะเลาะวิวาทขึ้นอีก

Wednesday, June 8, 2022

โหดมาก ง้อเมียไม่สำเร็จ บุกยิงกลางโรงบาล และยิงตัวตายตาม

 จ่าสิบเอกจังหวัดขอนแก่น บุกตามง้อขอคืนดีภรรยาถึงโรงพยาบาลแต่ไม่สำเร็จ ตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงภรรยาดับ ก่อนจะยิงตัวตายตาม ข่าวบันเทิง



เมื่อคืนนี้ (9 มิ.ย.) เวลา 00.00 น. พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งว่ามีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันภายในหอผู้ป่วยอายุรกรรมโรคหัวใจ ชั้น 4 อาคารคุณากรปิยชาติ ชั้น 4 ภายในโรงพยาบาลขอนแก่น เบื้องต้นพบนางสาวนภาพร อายุ 34 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะอาการสาหัส เจ้าหน้าที่เร่งให้ความช่วยแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา


ส่วนผู้ก่อเหตุคือ จ.ส.อ.อรรคพงษ์ ซึ่งใช้ปืนยิงเข้าที่ศีรษะตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืนพกสั้นรีวอลเวอร์ สีดำ ขนาด 4 นิ้ว บรรจุ 6 นัด และหัวกระสุนจำนวน 1 ลูก ตกอยู่ที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนที่ใช้ยิงแล้วในโม่ปืน จำนวน 4 ปลอก และลูกกระสุนที่ยังไม่ได้ยิงอีกจำนวน 2 นัด

พ.ต.อ.ปรีชา กล่าวว่า ทหารที่ก่อเหตุเป็นทหารอยู่ที่กรมทหารม้าที่ 6 ค่ายศรีพัชรินทร์ จังหวัดขอนแก่น ใช้อาวุธปืนลูกโม่ขนาด .38 ยิงอดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาลประจำที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น กระสุนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด ชายโครงขวา 1 นัด ภรรยาเสียชีวิตทันที จากนั้นทหารก็เดินห่างออกมาจากจุดที่ยิงอดีตภรรยา แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับยิงตัวเอง และเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน




ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุพยาบาลที่เป็นเพื่อนกับอดีตภรรยา ได้แจ้งญาติให้ทราบ ญาติพี่น้องจึงมาดูที่เกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนญาติและคนใกล้ชิดของผู้ตายทั้งสองคน ทราบว่า ทหารกับอดีตภรรยาอยู่กินกันจนมีบุตร 2 คน อายุ 3 ขวบ และ 7 ขวบ ต่างคนต่างก็ทำมาหากิน กระทั่งเมื่อประมาณต้นปีพยาบาลได้ไปอบรมหลักสูตรเฉพาะทางที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 4 เดือน และก็กลับมาทำงานที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ตามเดิม


“หลังพยาบาลกลับมาทำงานที่โรงวพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ทั้งคู่ก็มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนถึงขั้นยิงปืนขู่กันที่บ้านพัก ญาติพี่น้องก็รับรู้ปัญหามาตลอด สุดท้ายทั้งสองคนก็หย่าขาดจากกัน แต่ฝ่ายชายยังพยายามติดตามขอคืนดีกับพยาบาลมาโดยตลอด กระทั่งถืออาวุธปืนเข้ามาในโรงพยาบาล เดินตามหาอดีตภรรยาที่เข้าเวรและกำลังทำงานอยู่ในห้องพิเศษ เมื่อพบตัวก็เข้าไปหา ใช้ปืนยิงอดีตภรรยา 3 นัด ตายคาที่ จากนั้นทหารก็เดินออกจากห้อง แล้วใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิงขมับตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย แต่ยังไม่ตายทันที แพทย์-พยาบาลช่วยเหลือเอาไว้ได้ แต่ก็มาสิ้นใจในช่วงตีห้าที่ผ่านมา”


ทั้งนี้ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า มูลเหตุของการก่อเหตุของทหารในครั้งนี้ จากการสอบสวนญาติต่างก็ยืนยันว่า เกิดจากทหารหึงหวงอดีตภรรยาตัวเอง พยายามขอคืนดีแต่พยาบาลไม่ยอมคืนดีด้วย จึงมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวนญาติและคนใกล้ชิด เพื่อทราบรายละเอียดที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจนมากขึ้น จากนั้นจะมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

วินหื่น จี้นักเรียนเข้าม่านรูดหวังข่มขืน

 ช่วงเย็นวานนี้ เกิดเหตุคนร้ายเป็นวินรถจักรยานยนต์ ใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับเด็กสาวอายุ 16 ปี รายหนึ่ง หมายจะข่มขืน เหตุเกิดในซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 แต่ไม่สำเร็จเพราะเยาวชนผู้เสียหายพยายามดิ้นต่อสู้ และวิ่งหลบหนี ทำให้คนร้ายต้องหลบหนีโดยทิ้งเยาวชนผู้เสียหายไว้ในจุดเกิดเหตุ อัพเดตข่าวทั่วไป ข่าววันนี้ ข่าวด่วนทันใจ



ก่อนที่เมื่อ กลางดึกที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน สน. คลองตัน สามารถจับกุมตัว นายสมศักดิ์ แจ้งสัตย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้ที่วัดแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ส่วนมีดคัตเตอร์ และโทรศัพท์ของเหยื่อได้นำไปโยนทิ้งลงคลองใกล้กับจุดที่จับกุม


ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้พบกับผู้จัดการโรงแรมม่านรูด โดยผู้จัดการโรงแรมม่านรูด ระบุกับทีมข่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่า วินมอเตอร์ไซค์หื่น ใช้อาวุธมีดบังคับเยาวชนอายุ 16 ปีเข้ามาในโรงแรมม่านรูดเพื่อหวังจะข่มขืน ถือว่าคลาดเคลื่อนไปจากความจริง เนื่องจากคนร้ายไม่ได้พาเหยื่อเข้ามาในพื้นที่โรงแรม แต่เหยื่อวิ่งหนีคนร้ายมาจากท้ายซอย และส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ซึ่งพนักงานหญิงได้ยินเสียงจึงเดินออกไปดู ก่อนเห็นเยาวชนผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ พนักงานจึงมีการพาตัวเยาวชนผู้เสียหายรายนี้เข้ามาปฐมพยาบาลภายในโรงแรม เนื่องจากตามร่างกายมีบาดแผลถลอก ก่อนจะประสานงานไปที่วินรถจักรยานยนต์บริเวณปากซอย ที่มีบางส่วนเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาลและนำส่งรักษา ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปได้


ผู้จัดการโรงแรมยังระบุอีกว่าทางโรงแรมม่านรูดของตนเองไม่เคยสนับสนุนผู้กระทำความผิด รวมถึงหากพบเห็นว่ามีหญิงสาวรายใดไม่เต็มใจเข้ามา ก็จะช่วยเหลือและกันออกจากฝ่ายชายที่พาเข้ามาใช้บริการ เช่นเดียวกับหากพบเห็นว่ามีการพาเยาวชนที่สวมใส่เครื่องแบบนักเรียน จะไม่อนุญาตให้เข้ามาอยู่แล้ว ส่วนคนร้าย จากการสอบถามเยาวชนผู้เสียหายรายนี้ทราบว่า เป็นวินเบอร์ 41 ที่อยู่บริเวณท้ายซอย

ซึ่งเมื่อทีมข่าวเดินทางไปถามเพื่อนร่วมวิน ทำให้ทราบว่าเสื้อวินเบอร์ 41 ที่นายสมศักดิ์สวมใส่ในวันก่อเหตุ เป็นของพ่อนายสมศักดิ์ ที่ปัจจุบันเลิกวิ่งวินรถจักรยานยนต์ และหันไปประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนเสื้อวินได้ส่งมอบให้กับทางนายสมศักดิ์มาใช้วิ่งหาเงิน เนื่องจากไม่มีงานทำ ซึ่งตัวนายสมศักดิ์เองก็มาวิ่งอยู่ที่วินดังกล่าวได้ประมาณหนึ่งปี โดยนิสัยใจคอก็เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดจากับใคร ไม่มีใครในวินรู้ว่านายสมศักดิ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่


ด้าน พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผู้กำกับการ สน.คลองตัน ระบุถึงความคืบหน้าว่า หลังสอบปากคำ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด เนื่องจากมีหลักฐานและของกลางครบถ้วน แต่ในส่วนของข้อหาอื่นๆ เช่นการพรากผู้เยาว์ หรือการพยายามข่มขืน ต้องรอผลการสอบปากคำผู้เสียหายให้แล้วเสร็จก่อน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีการกระทำความผิดข้อหาอื่น ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง


ส่วนนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าและข้อศอกถลอกเป็นแผล จากการขัดขืนและพยายามหลบหนีระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง


ขณะที่ในส่วนของกลางในคดีนี้เบื้องต้นช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาได้มีการประสานมูลนิธิไปทำการงมในคลองแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับจุดที่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายสมศักดิ์ได้ เนื่องจากนายสมศักดิ์ อ้างว่าได้มีการนำอาวุธมีดคัตเตอร์และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้เสียหาย ไปโยนทิ้งไว้แต่จากการค้นหานานหลายชั่วโมง พบเพียงอาวุธมีดคัตเตอร์จมอยู่ แต่ในส่วนของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้เสียหายยังไม่พบ พนักงานสอบสวนจึงมีการเก็บรวบรวมหลักฐานเอาไว้ใช้ประกอบสำนวนคดี

Tuesday, June 7, 2022

สักผิดชีวิตเปลี่ยน นักมวยชาวฝรั่งเศส สักคำว่า "มวยไทย" เป็น "ฆวยไทย"

 นักมวยไทยชาวต่างชาติ คลั่งไคล้มวยไทยสุดๆ จนขอไปสักภาษาไทยไว้ที่แขนคำว่า "มวยไทย" แต่เหมือนช่างสักจะพลาดไปหน่อย ทำให้ ม.ม้า หัวหยักจนอ่านออกเสียงแล้วความหมายเปลี่ยน ดูหนังซับไทย



นักมวยหนุ่มรายนี้ก็คือ จิมมี่ วีโนต์ นักกีฬาคิกบ็อกเซอร์มวยไทยชาวฝรั่งเศส วัย 26 ปี ดีกรีเป็นถึงแชมป์โลกมวยไทย ที่เพิ่งคว้าแชมป์สนามมวยลุมพินี เป็นนักชกต่างชาติที่คว้าแชมป์ลุมพินีรายที่ 6




ล่าสุดเจ้าตัวได้โพสต์ภาพโชว์รอยสักที่แขนลงใน IG ส่วนตัว ลายสักเป็นข้อความภาษาไทยว่า "ฆวยไทย" พร้อมเขียนแคปชั่นว่า "Muay Thai"


งานนี้ทำเอาแฟนๆ ชาวไทยต่างเข้าไปคอมเมนต์กันใหญ่ว่า น่าจะมีอะไรผิดพลาดแล้ว เพราะพยัญชนะตัวแรกที่ควรจะเป็น ม.ม้า มันดันกลายเป็น ฆ.ระฆัง จนอ่านออกเสียงไม่เป็น "มวย" แต่กลายเป็นคำพ้องเสียงที่ไม่ค่อยจะน่ารักสักเท่าไหร่แทน

Monday, June 6, 2022

จับได้แล้ว คนร้ายข่มขืนฆ่า 2 เด็กหญิง หนีคดีนานถึง 14 ปี

 วันที่ 6 มิถุนายน 2565  ที่ สภ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว. เพชรบุรี พ.ต.อ.วรวัชร แค้มวงค์ ผกก.สภ.เขาย้อย ร่วมสอบปากคำนายนายเชิด ศรีจูม อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50 ต.สากเหล็ก อ.สากเหล็ก จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรีวันที่ 12 ก.ย.2551 คดีพรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี เพื่ออนาจาร และ คดีฆ่า เด็กหญิงจูนอายุ 13 ปี( ขอสงวนชื่อสกุลจริง )และ ฆ่า น.ส.แนน( ขอสงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 16 ปีชาวอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรีเหตุเกิดเมื่อปี 2551  ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย



หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เขาย้อย จับกุมตัวได้ที่บริเวณขนำไม่มีเลขที่ ภายในสวนลำไย หมู่ 7 ต.หนองตาคง อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณ หมู่ 1 ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี



สอบถามนายเชิด สารภาพว่า ในช่วงวันเวลาเกิดเหตุตนมีอาชีพขับรถรับจ้างส่งสินค้า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.2551 เวลาประมาณ 18.00 น. ตนได้พบกับผู้เสียหายทั้ง 2 คน ซึ่งเคยรู้จักกันมาก่อน อยู่ในร้านเกม จึงได้ชักชวนให้ขึ้นรถไปเที่ยวด้วยกัน และตนได้จอดรถรออยู่บริเวณริมถนนเพชรเกษมฯ จนกระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ตนได้โทรศัพท์ไปหา ด.ญ.จูน (ผู้เสียชีวิต) เพื่อชวนนั่งรถไปเที่ยวด้วยกัน ต่อมา ด.ญ.จูนได้ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมกับ น.ส.แนน ตนจึงออกอุบายให้ น.ส.แนน รออยู่ที่รถยนต์ของตน และได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปพร้อม ด.ญ.จูน จนกระทั่งถึงบริเวณป่าริมห้วย ม.1 ต. หนองชุมพล อ.เขาย้อย ตนได้พยายามลงมือข่มขืน ด.ญ.จูน แต่ ด.ญ.จูน ขัดขืน ตนจึงได้ใช้มือบีบคอ ด.ญ.จูน จนเสียชีวิต จากนั้น ได้ทิ้งศพไว้ในหนองน้ำบริเวณดังกล่าว แล้วขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่ น.ส.แนน ซึ่งอยู่ที่รถยนต์ของตนจากนั้นได้ออกอุบายชักชวน น.ส.แนน ไปเที่ยวด้วยกันโดยหลอกว่า ด.ญ.จูนรออยู่ที่ปั๊มน้ำมันมันด้านหน้า




แต่เมื่อขับรถออกมาได้สักครู่ กระทั่งเข้าเขต อ.ปากท่อ จ. ราชบุรี ซึ่งอยู่ในพื้นที่ติดกันกับจังหวัดเพชรบุรี ตนได้ขอมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.แนน ซึ่ง น.ส.แนนยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับตนหลังจากตนสำเร็จความใคร่แล้ว ได้ใช้มือบีบคอ น.ส.แนนจนแน่นิ่งและเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งไว้บริเวณป่าละเมาะข้างทางจากนั้น จึงได้กลับมาขับรถออกจากจุดดังกล่าว หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่ท่าเรือคลองเตย กรุงเทพฯกว่า 2 ปีแล้วไปหลบซ่อนตัวต่อที่ จ.ลพบุรีและหนีมากบดานที่ จ.จันทบุรี ได้ประมาณ 5 ปี




โดยขณะอยู่ที่ จ.จันทบุรีได้รับจ้างทำงานทั่วไปโดยหลีกเลี่ยงการใช้บัตรประชาชนยืนยันแสดงตัวตนทำให้รอดพ้นการถูกจับกุมมานานกว่า 14 ปีกระทั่งถูกตามจับกลุ่มดังกล่าว


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเชิดไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมจุดที่นายเชิดนำรถพ่วงแบบหัวลากมาจอดและโทรศัพท์ไปหา ด.ญ.จูนโดยออกอุบายว่ารถน้ำมันหมดให้ช่วยพาไปซื้อน้ำมัน ก่อนพาไปข่มขืนและฆ่าที่ป่าริมห้วย จุดต่อมาห่างกันประมาณ 500 เมตร ซึ่งจุดนี่นายเชิดได้บังคับ น.ส.แนน ข่มขืนบนรถจนสำเร็จความใคร่จากนั้นได้บีบคอจนเสียชีวิตและนำศพไปทิ้งในเขต อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี

และขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเชิดไปชี้จุดที่ 3 บริเวณป่าละเมาะ หมู่ 1 ต.หนองชุมพล อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ได้มีนายวันชัย บิดาของ น.ส.แนนที่ถือรูปลูกสาวมายืนรอดูการทำแผนพร้อมกับญาติและชาวบ้านจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายเชิดลงจากรถตู้ตำรวจ นายพรชัยและญาติได้วิ่งฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเข้าไปทำร้ายนายเชิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องยุติการทำแผนและรีบนำตัวนายเชิดขึ้นรถตู้ฝ่าวงล้อมชาวบ้านที่พยายามกันไม่ให้รถออกจากพื้นที่จนเกิดความชุลมุนวุ่นวาย ทั้งนี้หลังล้มเลิกการทำแผน พ่อและแม่ของน้องจูน (นามสมมุติ) ได้นำกระเช้าของขวัญมามอบขอบคุณกับ พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว. เพชรบุรี ด้วย


พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว. เพชรบุรี เปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ 14 ปีที่แล้ว ตอนนี้ผู้ต้องหารับสารภาพว่าได้ฆ่าน้องสองคน โดยเคสของน้องแนนยังไม่พบศพ โดยวางแนวทางให้ตำรวจเขาย้อยร่วมกับสืบจังหวัดเพชรบุรีไล่ตามหาจุดที่ผู้ต้องหาให้การว่าจอดรถแล้วแบกศพน้องเดินเข้าไปประมาณครึ่งชั่วโมงเพื่อนำศพน้องไปทิ้งไว้ในป่าลึกซึ่งเป็นเขตติดต่อแม่กลอง และได้มีการประสานไปยังนิติเวช และสภ.แม่กลอง ว่าในช่วงระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมามีการพบศพที่น่าจะเกี่ยวข้องบ้างหรือไม่ โดยจะเอารูปพรรณของผู้เสียชีวิตเข้าสืบค้นในสารระบบ แต่ถ้ายังไม่เจอจะต้องประสานขอกำลังทั้งฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจ กองกำลังอาสาสมัครร่วมกันค้นหาจากจุดที่จอดรถไปจนถึงจุดที่ผู้ก่อเหตุระบุว่านำศพน้องไปทิ้งไว้เพื่อทำการค้นหาศพในลักษณะเรียงแถวหน้ากระดาน ซึ่งหากพบศพจริงก็จะได้พาน้องเขากลับบ้านเพราะเป็นเวลา 14 ปี แล้วที่น้องหายไป


 เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาภาคเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีไปจากบิดามารดาเพื่อหากำไรหรือเพื่ออนาจารกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีซึ่งไม่ใช่ภรรยาตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Wednesday, June 1, 2022

สาวรัสเซียตกคอนโดภูเก็ตชั้น 8 มือกำเส้นผมปริศนา

 สภ.ป่าตอง จ.ภูเก็ต รับแจ้งว่าพบนักท่องเที่ยวพลัดตกจากห้องพักชั้น 8 คอนโดมิเนียม ริมถนนพระบารมี ต.ป่าตอง อ.กะทู้ เสียชีวิต 1 ราย จึงรีบรุดลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ริมถนน พบร่างของหญิงต่างชาติ สภาพนอนคว่ำหน้า สวมชุดเดรสสีน้ำเงินเข้ม มีลวดลายสีแดง ที่ศีรษะมีเลือดไหลอาบ โดยร่างของเธอติดกับโคนต้นไม้ใหญ่ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่า ที่มือของเธอกำเส้นผมไว้จำนวนหนึ่งด้วย ภายหลังทราบชื่อผู้ตาย น.ส.เยฟเจเนีย อายุ 37 ปี ชาวรัสเซีย



เบื้องต้น ทราบว่า เธอน่าจะมาดื่มสุรากับเพื่อนที่ห้องดังกล่าว ตรวจสอบห้องพัก พบประตูกระจกสไลด์ที่ระเบียบถูกเปิดออก บนโต๊ะมีขวดและแก้วเหล้าวางอยู่ ที่พื้นห้องใกล้เตียงนอนพบถุงยางอนามัยที่ถูกแกะแล้วตกอยู่ 1 ชิ้น และมีซองของถุงยางอนามัยสีดำถูกฉีกตกอยู่ 1 ซอง ภายในห้องไม่มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สิน ที่ระเบียบยังพบซองบุหรี่และที่เขี่ยบุหรี่วางอยู่อีกด้วย



ตำรวจได้ตรวจสอบไทม์ไลน์ของเธอ มีการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย วันที่ 25 พ.ค.65 เข้าพักที่โฮเท็ลภายใน ซ.นาในร่วมใจ 8 ต.ป่าตอง โดยห้องพักที่เกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนร่วมชาติอยู่ด้วยกัน 3 คน รวมผู้ตายเป็น 4 คน ทุกคนดื่มแอลกฮอล์และมีอาการมึนเมา ตรวจที่ระเบียงพบว่ามีขอบค่อนข้างต่ำ


ทั้งนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง ได้เชิญตัวชาวต่างชาติที่อยู่ในห้องพักขณะเกิดเหตุมาสอบปากคำพร้อมกับประสานสถานทูตรัสเซียประจำประเทศไทยเพื่อส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมสอบสวนข้อเท็จจริง


คืบหน้าล่าสุด วันนี้ (1 มิ.ย.65) พล.ต.ต.เสริมพันธ์ุ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เผยถึงคดีนี้ว่า ในการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวว่า การสอบปากคำบุคคลที่อยู่ภายในห้องขณะเกิดเหตุนั้น ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร เนื่องจากบุคคลทั้ง 3 ประกอบด้วย ชาย 2 หญิง 1 ซึ่งเป็นชาวรัสเซียต่างไม่พูดภาษาอังกฤษ แม้ว่าจะจัดหาล่ามแปลภาษาแล้วก็ตาม แต่บุคคลทั้ง 3 ก็ยังไม่ยอมให้ความร่วมมือ และขอพบเจ้าหน้าที่สถานทูตรัสเซียก่อนที่จะมีการให้ปากคำใดๆ ซึ่งถือว่าเป็นสิทธิ์ของทุกคนตามกฎหมาย โดยตำรวจก็ใช้สิทธิ์ในการควบคุมบุคคลทั้ง 3 ตามระยะเวลาของกฎหมายเช่นเดียวกัน

รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "...