Saturday, March 26, 2022

เศร้า "นุ๊กซี่" แฟนสาว "ปู แบล็กเฮด" เสียชีวิตแล้ว

 ข่าวเศร้าวงการบันเทิงกับการจากไปของ นุ๊กซี่ แฟนสาวของหนุ่ม ปู แบล็กเฮด ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง หลังจากต่อสู้และทำการรักษามาอย่างยาวนาน ข่าวศิลปิน



สร้างความตกใจให้กับหลายๆ คนที่ได้ทราบข่าวเป็นอย่างมาก สำหรับโพสต์ข้อความล่าสุดบนอินสตาแกรม @blackheadpoo ของ ปู-อานนท์ สายแสงจันทร์ หรือ ปู แบล็กเฮด ศิลปินร็อกสตาร์รุ่นใหญ่ วัย 51 ปี



ซึ่งโพสต์ดังกล่าวมีเนื้อหาเกี่ยวกับแฟนสาวรุ่นน้อง นุ๊กซี่-อัญพัชญ์ วัฒนาตันติรัตน์ หรือ น้องนุ๊กซี่ สาวเซ็กซี่มากความสามารถ ที่ได้จากไปอย่างสงบ หลังจากที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวจากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งมานานหลายปี


"นู๋เป็นห่วงพี่ที่สุด ห่วงยิ่งกว่าตัวเองซะอีก นู๋จะสู้กับมันจะอยู่ดูแลพี่อีกนานๆ หลับให้สบายนะคะสุดที่รักของพี่ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรทั้งนั้น", "รักนู๋ที่สุด nookzii"

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา นุ๊กซี่ อัญพัชญ์ ยังได้โพสต์ภาพถ่ายร่วมเฟรมกับ ปู แบล็กเฮด  ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายที่ถูกแชร์ลงบนอินสตาแกรม @nookzii ของเจ้าตัว พร้อมกับแนบแคปชั่นข้อความว่า "มีคนกลับบ้านไป1วันคิดถึงมากแต่งหน้ารอเลยวันนี้ **วันนี้เข้าห้องน้ำเองแบบแทบวิ่ง3-4รอบเลยค่ะ หมอกายภาพตกใจ 555555"



ซึ่งบรรดาเพื่อนพ้องคนบันเทิงที่ติดตามข่าว รวมถึงคอยให้กำลังใจ นุ๊กซี่ และ ปู แบล็กเฮด มาตลอด ต่างก็เข้ามาร่วมคอมเมนต์แสดงความเสียใจและไว้อาลัยให้กับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเซ็กซี่สตาร์คนดังกันอย่างต่อเนื่อง

Thursday, March 24, 2022

"นางฟ้าปอร์เช่" ใส่บิกินนี่ท่อนล่างเข้าร้านสะดวกซื้อ

 กลายเป็นภาพไวรัลสุดร้อนแรงในโลกออนไลน์ไต้หวันในช่วงหลายวันที่ผ่านมา หลังหนุ่มชาวเน็ตคนหนึ่งนำภาพไปโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊ก เป็นภาพของสาวเซ็กซี่ สวมหมวกสีขาว แมสก์สีชมพู อยู่ในชุดสุดแซ่บเสื้อกล้ามสีขาว ส่วนท่อนล่างเป็นบิกินี่สีดำตัวจิ๋ว สะพานกระเป๋าแบรนด์เนม ยืนอยู่ในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19




ภาพนี้ถูกแชร์จนว่อนโลกออนไลน์ของชาวไต้หวันเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) และนำมาสู่กระแสสองด้าน ทั้งชื่นชมในความสวยแซ่บของสาวในภาพ ถึงขั้นตามหา IG ของสาวในภาพกันให้วุ่น ขณะที่อีกด้านก็วิพากษ์วิจารณ์ว่า แต่งตัวแบบนี้เข้าไปในร้านสะดวกซื้อมันเหมาะสมแล้วหรือ? 



แต่ไม่นานหลังจากที่รูปกลายเป็นไวรัล ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์เฉลยว่า สาวในภาพจริงๆแล้วคือ วาวา ชู เน็ตไอดอลสาวเจ้าของฉายา "นางฟ้าปอร์เช่" ซึ่งมีผู้ติดตามในไอจีหลายหมื่นคน และเป็นที่รู้จักในหมู่แฟนคลับ จากการโพสต์ภาพไลฟ์สไตล์แซ่บๆ คู่กับรถหรูยี่ห้อปอร์เช่ ที่เธอครอบครองอยู่หลายคัน


วาวา ให้สัมภาษณ์กับ ETToday ว่า ภาพที่ถูกนำไปแชร์เป็นภาพเก่าตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ที่เธอโพสต์ใน IG ของตัวเอง แล้วมีคนเซฟภาพไปโพสต์ต่อ โดยไม่แจ้งที่มาที่ไป จริงๆเธอถ่ายรูปนี้ตอนกำลังจะไปดำน้ำ และแวะซื้อเครื่องดื่มก่อนจะลงน้ำเท่านั้นเอง แต่คอมเมนต์ต่างๆ ในโพสต์ที่ถูกแชร์ไป เธอก็บอกว่าเธออ่านหมดแล้วทั้งด้านที่ดีและไม่ดี แต่เธอก็พยายามมองโลกด้านดีว่ามันเป็นเรื่องขำๆ บางคนถึงกับแต่งเรื่องว่า จริงๆคนในรูปเป็นผู้ชายด้วยซ้ำไป ซึ่งเธออ่านแล้วก็ยังรู้สึกขำ

Wednesday, March 23, 2022

ข่าวเศร้าวงการบันเทิง สูยเสียพระเอกหนุ่ม "บีม ปภังกร" พระเอกจากซีรีส์ "เคว้ง"

 ล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มีนาคม ผู้สื่อข่าวได้รายงานว่า ญาติของนักแสดงหนุ่มได้พยายามปลุกเจ้าตัวตามปกติขณะที่กำลังนอนหลับ แต่ปรากฎว่าอีกฝ่ายกลับไม่ตื่น จึงได้ตัดสินใจนำตัวส่งโรงพยาบาลและพยายามกู้ชีพ ซึ่งปรากฎว่าไม่เป็นผล   ข่าวประจำวัน




อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ ยังไม่มีการออกมาแถลงข่าวหรือให้รายละเอียดเพิ่มเติมแต่อย่างใดจากทางต้นสังกัด ของ บีม ปภังกร 




Tuesday, March 22, 2022

ลูกชายเมาซ้อมแม่ กราบเท้าขอขมา บอกจะลดเหล้าลง 50%

 พ.ต.ท.จำรัส ศิริเลี้ยง สารวัตรใหญ่ สภ.ชุมแสง อ.สตึก พร้อมเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พมจ.) บุรีรัมย์ นำตัว นายแสน หรือ แอ๊ด อายุ 38 ปี และนางอำนวย อายุ 48 ปี แฟนนายแอ๊ด ไปอบรมสั่งสอนต่อหน้าแม่ของตัวเอง ที่ สภ.ชุมแสง



หลังมีคลิปปรากฏว่า นายแอ๊ด ทำร้าย นางทวน อายุ 75 ปี แม่ของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าตัวอ้างก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้ทำร้าย หรืออาจจะทำร้ายไม่รู้ เพราะจำอะไรไม่ได้เวลาเมาสุรา โดยนายแอ๊ด ได้ก้มลงกราบเท้าแม่ต่อหน้าเจ้าหน้าที่ พร้อมกับสัญญาว่า ”จะไม่ทำร้ายแม่อีก” หลังจากนี้จะหางานทำ ดูแลแม่ แต่ยังเลิกเหล้าไม่ได้ แต่รับปากกับตำรวจว่าจะดื่มเหล้าลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ ดูหนังซับไทย




ขณะที่นางทวน บอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ”ลูกไม่ได้ทำร้าย” ให้อภัยลูก 100 เปอร์เซ็นต์

สอบถาม ลูกชายนางทวน บอกว่าสาเหตุที่แม่บาดเจ็บ ตอนนี้ตนยังไม่รู้เรื่องจำอะไรไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ตนเมาสุรา จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จำได้ว่าแค่ด่าไม่เคยทำร้าย แม่อาจจะล้มเองก็ได้


นางอำนวย  อายุ 48 ปี ภรรยานายแอ๊ด บอกว่ายอมรับว่าได้ดื่มเหล้าเป็นเพื่อนสามีเป็นประจำ ส่วนเงินที่เอามาซื้อเหล้าดื่ม ได้จากการรับจ้างบ้าง ส่วนเงินเบี้ยคนชราของยาย ส่วนหนึ่งเอาไปซื้อข้าวสาร ถ้าเหลือก็จะเอามาซื้อเหล้าดื่มกัน หลังจากนี้จะลดเหล้าลงแล้วทำมาหากิน


ด้าน นางอรัญญา เนตรมา อายุ 50 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.หนองใหญ่ บอกว่าที่ผ่านมานายแอ๊ดทำร้ายแม่เป็นประจำ รวมถึงพี่น้องที่ถูกทำร้ายไปด้วยถ้าอยู่ใกล้ หลายครั้งบุกเข้าไปในบ้านคนอื่น เพราะเมาไม่รู้เรื่อง ครั้งนี้ถือว่าไม่มีใครแจ้งความ แต่ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีกในฐานะผู้นำหมู่บ้าน จะเข้าแจ้งความเอาผิดนายแอ๊ดทันที เพราะได้ประสานกับสารวัตรใหญ่เอาไว้แล้ว

Monday, March 21, 2022

หัวรุนแรงเกิน ศาลสั่งห้ามรัสเซียใช้ เฟสบุ๊คและไอจี

 มอสโก, 22 มี.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันจันทร์ (21 มี.ค.) ศาลรัสเซียมีคำสั่งแบนการใช้งานเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมในรัสเซีย โดยระบุว่า เมตา แพลตฟอร์มส อิงค์ (Meta Platforms Inc.) บริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ เจ้าของสองแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าวเป็น “พวกหัวรุนแรง” รีวิวการ์ตูนอนิเมะ




สื่อท้องถิ่นรัสเซีย รายงานว่า สำนักงานอัยการของรัสเซียระบุว่าการดำเนินการทางกฎหมายครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องชาวรัสเซียจาก “การโดนละเมิดสิทธิ”

เมตา ละเมิดกฎระเบียบของตนเองโดยอนุญาตการโพสต์ข้อความที่มีถ้อยคำรุนแรงต่อกองทัพรัสเซีย อีกทั้งเพิกเฉยคำร้องขอให้มีการลบข้อมูลเท็จเกี่ยวกับปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซีย และข้อความเรียกร้องจัดการชุมนุมที่ไม่ได้รับอนุญาต รวมกว่า 4,500 รายการ

คำตัดสินของศาลจะมีผลบังคับใช้ทันที ทว่าจะไม่กระทบการใช้งานแอปพลิเคชันส่งข้อความวอตส์แอปป์ (WhatsApp)

ขณะเดียวกัน เมตา ยังถูกสั่งห้ามทำธุรกิจในรัสเซีย เนื่องจากสำนักงานอัยการและสำนักงานความมั่นคงกลางของรัสเซียมองว่า บริษัทฯ มีท่าทีต่อต้านรัสเซียและกองกำลังรัสเซีย

Sunday, March 20, 2022

ส.ส.เต้ มงคลกิตติ์ ทุ่มสุดตัวคดี "แตงโม" ลุยค้นขยะตามหากระโปรงสีขาวที่หายไป

 จากกรณี นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลุยตามหาความจริงเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของ "แตงโม นิดา" โดยได้มีการแต่งตั้งทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย เป็นที่ปรึกษาของตัวเอง ด้านกฏหมาย และมีหน้าที่รับผิดชอบหาหลักฐานหาความจริงคดีแตงโม จนกว่าคดีจะสิ้นสุด ข่าวด่วน




นายมงคลกิตติ์ กล่าวว่า กรณีถูกกล่าวหาว่าหิวแสง พรรคการเมืองต้องแก้ไขปัญหาทุกอย่าง ตอนนี้มีกระทรวงยุติธรรมและภาคประชาชน น้องแตงโมเป็นคนของประชาชน พรรคการเมืองมีหน้าที่ช่วยเหลือ หลายภาคส่วนด้วยกัน ในฐานะที่เป็นพรรคการเมือง เราต้องยืนหยัดว่าทำอย่างไรก็ได้ ให้ช่วยแก้ไขปัญหาประเทศแก้ไขปัญหาประชาชน เราต้องรู้ทุกอย่างและรู้ทุกเรื่อง


ซึ่งต่อมาในโลกโซเชียลมีการแชร์คลิป นายมงคลกิตติ์ ขณะกำลังค้นหากระโปรงหรือผ้าพันเอว ซึ่งเป็นผ้าลูกไม้สีขาวที่แตงโมใส่ในวันเกิดเหตุ แต่ไม่พบตอนที่เจอศพ โดย นายมงคลกิตติ์ ได้ลงทุนค้นหาตามกองขยะต่างๆ ด้วยตัวเอง ซึ่งกระโปรงดังกล่าวอาจเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญในคดี 


ล่าสุด นายมงคลกิตติ์ โพสต์ข้อความว่า ในวันนี้ (21 มี.ค.65) ที่ ท่าเรือพิบูลสงคราม 1 พี่จะเอาเครื่องเซ่นไหว้ ดวงวิญญาณน้องแตงโม ให้ช่วยพี่เปิดทาง หาของ 3 อย่าง 1.เสื้อพันเอวสีขาว 2.กระเป๋า 3.มีด

Saturday, March 19, 2022

พยาบาลสาวต้องออกจากงาน หลังจากมีคนเจอรูปสยิวใน OnlyFans

 Daily Star นำเสนอเรื่องราวของ อัลลี่ เรย์ วัย 37 ปี คุณแม่ลูก 3 อดีตพยาบาลสาวประจำแผนกบำบัดพิเศษทารกแรกเกิด (NICU) ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในบอสตัน สหรัฐฯ  ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



อัลลี่ เล่าว่า ในช่วงโควิด-19 ระบาด เธอต้องทำงานหนักมาก บางครั้งต้องควงเวรลากยาวถึง 14-15 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อแลกกับรายได้สุดจำกัดจำเขี่ย 



แต่ไม่นานอัลลี่ก็พบหนทางหารายได้พิเศษ เมื่อเธอเปิด OnlyFans ลงรูปสุดเอ็กซ์ของตัวเอง เพียงแค่เดือนแรกเธอก็ทำเงินไปได้ถึง 8,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 2.6 แสนบาท) ในเดือนเดียว ซึ่งมากกว่าเงินเดือนพยาบาลอยู่มากมายทีเดียว



แต่หลังจากอัลลี่ทำ OnlyFans ได้ไม่นาน เพื่อนร่วมงานของเธอก็ไปเจอแอคเคาท์ของเธอเข้า ก่อนที่ไปฟ้องหัวหน้างาน จนเธอถูกเรียบพบ หัวหน้ายื่นคำขาดกับเธอว่า ถ้าเธอไม่เลิกทำ OnlyFans ก็ต้องลาออกจากอาชีพพยาบาลไปซะ



และแน่นอน อัลลี่ บอกว่าเธอแทบไม่ลังเลที่จะทิ้งอาชีพที่เธอรัก ก่อนเดินเข้าสู่การเป็นเซ็กซ์ครีเอเตอร์เต็มตัว

ซึ่งการตัดสินใจครั้งนั้นก็ตอบแทนอัลลี่อย่างมหาศาล เพราะปัจจุบันเธอทำเงินจาก OnlyFans ได้มากถึง 350,000 ดอลลาร์ (ราว 11 ล้านบาท) ต่อเดือนเลยทีเดียว

Friday, March 18, 2022

"เนียร์" ทีมงาน "คิมเท" ขอพูดในประเด็นที่ตกเป้นเหยื่อสังคม

 กำลังเป็นที่จับตามองในสังคมขณะนี้ก็ว่าได้ สำหรับกรณีที่ 4 อดีตทีมงานหักหลัง คิวเท โอปป้า หรือ คิวเท ซิม ได้ออกมาเปิดใจเรื่องราวสุดเจ็บช้ำว่าถูกทีมงานที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปี หักหลัง ไม่ว่าจะเป็นการถูกนินทา นำข้อมูลของบริษัทให้คนภายนอกรู้ ออกไปทำช่องของตัวเองจะทำงานของคิวเทเสียหาย หรือการขโมยของในบ้านก็ตาม ข่าวด่วน





ซึ่ง คิวเท ได้เผยว่าตอนนี้ได้ดำเนินคดีตามกฏหมายเป็นที่เรียบร้อย โดย 1 ใน 4 อดีตทีมงานก็ได้ออกมายอมรับ รู้สึกผิดกับคิวเทจริง ๆ จนกระทั่งในเวลาต่อมา ไจแอนท์และน้ำหวาน ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเป็นการเข้าใจผิด พร้อมบอกว่าอยากกลับไปทำงานด้วยอีกครั้ง

ล่าสุด (16 มี.ค.) เนียร์ อดีตทีมงานของคิวเท ได้เผยแพร่คลิปผ่านช่องยูทูบของตนเอง พร้อมกับร่ายยาวความในใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “สวัสดีครับ ผมเนียร์นะครับ ผมเป็น 1 ใน 4 อดีตที่ทีมงานที่ถูกพูดถึงในกระแสขณะนี้นะครับ ตอนแรกไม่ได้ออกมาทำคลิปหรือชี้แจงอะไร ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนมากกว่า


แต่ว่าสิ่งที่ผมได้ทราบมาว่ามีหลาย ๆ เรื่องเกิดการเข้าใจผิดกัน มีการได้รับสารที่คลุมเครือได้ชัดเจน ทำให้ผมได้ขอออกมาพูดในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้นะครับ เรื่องของอินสตาแกรมและเฟซบุ๊กถูกปิดไป เกิดจากการรายงานที่ถูกกดเข้ามา ช่องทางที่ผมจะเผยแพร่คลิปวิดีโอนี้มีแค่ทางยูทูบและแฟนเพจเท่านั้น


ต่อมามีการพูดถึงคลิปวิดีโอที่มีการพูดถึงก่อนหน้านี้นะครับ เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเดือนธันวาคม ทีมงานนัดเขาเข้าไปคุย ผมพ้นสภาพเป็นพนักงานตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่ได้มีผลอยู่ด้วยครับ ต่อมาเป็นเรื่องที่มีคนเข้าใจผิดกัน 1 ใน 4 ทีมงานออกมาโพสต์ความแฟร์ของรายได้ ทำนองนี้ ซึ่งผมเห็นโพสต์ต้นทาง ไม่ใช่ชื่อ 1 ใน 4 นี้เลย ซึ่งเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันครับ


ประเด็นเรื่องของการลักขโมยของ เป็นประเด็นที่ผิดจริง ๆ ผมไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด ทางเขาก็ติดต่อผมมา มีการพบเห็นแชทคุยกันภายในของทีมงาน แล้วก็เรียกผมไปพบครับ ผมก็เข้าไปพบตามที่เรียกผมไป เนื้อหาในแชทไม่ได้มีการว่าร้าย หรือเสื่อมเสียชื่อเสียง ไม่ได้มีการเผยแพร่สู่วงนอกแต่อย่างใด ก็มีการเจรจากันด้วยความรู้สึกจริง ๆ ไม่สำเร็จนะครับด้วยหลาย ๆ เรื่อง แล้วผมก็เข้าใจในสิ่งที่เขาไม่พอใจ ถ้าสิ่งนี้ทำให้เขาไม่พอใจ ผมยินดีจะเคลียร์ใจ ปรับความเข้าใจกัน ยังมีเรื่องที่ค้างคาใจอยู่


แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้คือผมได้ตกเป็นจำเลยสังคมทุกคนเข้ามาด่าว่าผม เข้ามาโจมตีผม ทั้งเรื่องที่ผมทำ ไม่ได้ทำ และเข้าใจผิดกัน ก็ทุกคนเข้ามาโจมตีผมเยอะมาก ๆ ผมได้รับความเสื่อมเสียหายเยอะมาก ทั้งเรื่องของการงาน การใช้ชีวิตไม่เหมือนเดิม ลามไปถึงคนที่อยู่รอบตัวผม อย่าไปยุ่งกับคนรอบตัวผม คนที่ผมเคยร่วมงานไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย อยากให้ช่วยแยกแยะประเด็นนี้ แชทนี้ไม่ได้มีเรื่องที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หรือมีการเผยแพร่สู่วงนอก”

Tuesday, March 15, 2022

เร่งสืบคดี น้องเปรม เหยื่อรับน้องโหด จ่อแจ้งข้อหารุ่นพี่ 7 คน !

 จากกรณี นายพัดยศ ชลภักดี หรือน้องเปรม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 สาขาช่างกลโรงงาน วิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เสียชีวิตจากการถูกกลุ่มรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายในกิจกรรมรับน้องใหม่ที่แอบจัดนอกสถานที่ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น



ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (16 มีนาคม 2565) อาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานได้นำตัวกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 2 ซึ่งเป็นรุ่นพี่ และกลุ่มนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 รุ่นน้อง อีกจำนวนกว่า 30 คน ที่เข้าร่วมในกิจกรรมรับน้องใหม่ และยังไม่ได้ให้ปากคำ เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.มะเริง อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา 



พันตำรวจเอก คณัสนันท์ สุวรรณทรัพย์ ผู้กำกับการ สภ.มะเริง เปิดเผยว่า ในวันนี้ตำรวจได้เรียกผู้ที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมรับน้องซึ่งมีทั้งกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็นนักศึกษา ปวส.ปีที่ 2 และกลุ่มรุ่นน้องนักศึกษา ปวส.ปีที่ 1 อีกประมาณ 30 คน รวมทั้งอาจารย์ที่ดูแลนักศึกษามาสอบปากคำทั้งหมด เพื่อดำเนินการสอบสวนหาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีใครเกี่ยวข้องแค่ไหนอย่างไร ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติม มีเพียงกลุ่มรุ่นพี่ 7 คนเท่านั้นที่ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย แต่หากการสอบสวนพบว่าใครมีส่วนร่วมในการกระทำผิดก็จะแจ้งดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป รีวิวหนัง LGBT+ หญิงรักหญิง , ชายรักชาย




ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุรพจน์ วัชโรภากุล รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และศิษย์เก่าสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้อง และร่วมกันกระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น โดยให้ตนเป็นประธาน เพื่อดำเนินการหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดทั้งหมดมาลงโทษตามระเบียบของทางมหาวิทยาลัย ซึ่งก็จะได้มีการเรียกประชุมคณะกรรมการสอบสวนภายในสัปดาห์นี้


ส่วนในเรื่องการเยียวยาครอบครัวของน้องเปรม เบื้องต้นทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างในเรื่องการจัดการศพ ซึ่งจากการหารือพูดคุยทางพ่อแม่ของน้องเปรม มีความประสงค์จะนำศพน้องกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยทางมหาวิทยาลัยพร้อมรับผิดชอบทั้งเรื่องค่าเดินทาง และค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ ส่วนความช่วยเหลืออื่นๆ ทางมหาวิทยาลัยก็พร้อมเยียวยาครอบครัวของน้องเปรมให้ดีที่สุดอย่างเต็มที่


ขณะเดียวกัน นายอุดม เชิดชู อายุ 74 ปี คุณตาของน้องเปรม พร้อมด้วยญาติๆ ได้พากันไปจุดธูปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของน้องเปรมบริเวณที่จัดกิจกรรมรับน้องจุดที่เกิดเหตุตรงกลางทุ่งนาในพื้นที่ตำบลมะเริง ซึ่งอยู่ห่างจากวิทยาลัยนวัตกรรมวิชาชีพ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ไปประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อเชิญดวงวิญญาณของน้องเปรมให้กลับบ้าน โดยญาติของน้องเปรมยังคงอยู่ในอาการเศร้าโศกเสียใจ

ภรรยาท้องอ่อนร่ำไห้ "น้องเปรม" เหยื่อรับน้องโหด

 น้องเปรม อายุ 19 ปี ชาวตำบลกฤษณา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พร้อมด้วยข้อความระบุว่า ศพแรกของปี น้องเปรม นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นครราชสีมา เสียชีวิตจากการรับน้องใหม่ ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย




ถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิตที่บริเวณทุ่งนาบ้านหนองระเวียง ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยก่อนเกิดเหตุรุ่นพี่ได้มาแจ้งให้นายพัดยศชวนไปเล่นฟุตบอล แต่พอไปถึงกลายเป็นการรับน้องและบังคับให้ดื่มเหล้าขาว จากนั้นรุ่นพี่ได้มีการรุมทำร้าย จนนายพัดยศหมดสติและรุ่นพี่ได้พยายามปั้มหัวใจช่วยชีวิตและนำส่ง รพ.ค่ายสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 20 กิโลเมตร และเสียชีวิตระหว่างทาง



เช้าวันนี้ (15 มีนาคม 2565) ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์พูดคุยกับพ่อของน้องเปรม อายุ 19 ปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง หนุ่มนักศึกษาที่ถูกรุ่นพี่รับน้องจนเสียชีวิต ซึ่งคุณพ่อของน้องได้เปิดเผยว่า หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องเปรม คุณพ่อก็ได้เดินทางกลับมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อมาดูศพน้องที่ รพ.ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา โดยเมื่อเดินทางมาถึงคุณพ่อก็ได้เจอกับกลุ่มรุ่นพี่ที่ทำร้ายน้องเปรมจนเสียชีวิตแล้ว โดยมีด้วยกันทั้งหมด 6 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด โดยรุ่นพี่ทั้ง 6 คนก็ได้กราบเท้า และกล่าวขอโทษกับคุณพ่อ




ซึ่งคุณพ่อก็ถามไปว่า ทำไมต้องทำกันรุนแรงอย่างนี้ และคุณพ่อก็ได้กล่าวต่อว่าพูดไปหลายอย่าง โดยที่รุ่นพี่ทุกคนก็ยอมรับผิด โดยช่วงสายวันนี้ (15 มีนาคม 2565) คุณพ่อก็จะเดินทางไปรับศพน้องที่ รพ.ค่ายสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อนำศพส่งไปตรวจพิสูจน์ที่กรุงเทพ อย่างไรก็ตามผลการตรวจร่างกายของน้องเปรมที่ รพ.ค่ายสุรนารี เบื้องต้นแพทย์ได้แจ้งว่า น้องเปรมติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เป็นเชื้ออ่อนๆ และหลังเกิดเหตุทางผู้บริหารมหาวิทยาลัยก็ได้ติดต่อมาเบื้องต้นแล้ว และอธิบายว่าการรับน้องดังกล่าวอยู่นอกมหาวิทยาลัยนอกเหนือการควบคุมแต่จะขอร่วมแสดงรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยจะเยียวยาช่วยเหลืออย่างเต็มที่ โดยทางมหาวิทยาลัยจะได้เรียกรุ่นพี่ที่ก่อเหตุและผู้ปกครองมาสอบสวนข้อเท็จจริงและจะมีมาตรการลงโทษตามระเบียบมหาวิทยาลัยถึงขั้นให้ออกจากการเป็นนักศึกษาส่วนคดีความก็จะปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฏหมายต่อไป ซึ่งก็ต้องรอพูดคุยกันอีกครั้งว่าจะรับผิดชอบอย่างไร อย่างไรก็ตามตนยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่และผู้เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด




ต่อมาเฟสบุ๊ก ANTI SOTUS ก็ได้ลงคลิปภาพรุ่นพี่นักศึกษที่ทำร้ายร่างกายนายพัดยศพร้อมด้วยแฟนสาวของนายพัดยศที่กำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน และญาติๆเดินทางไปบริเวณทุ่งนาบ้านหนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมาที่เกิดเหตุที่รุ่นพี่ใช้รับน้องและประกอบพิธีเชิญดวงวิญญาณของนายพัดยศ กลับบ้านตามความเชื่อ โดยระหว่างนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเดินทางไปกับแฟนสาวของนายพัดยศได้ต่อว่ารุ่นพี่โหดด้วยความคับแค้นใจถึงการกระทำของรุ่นพี่จนเป็นเหตุให้นายพัดยศเสียชีวิต

สายจากเพื่อนน้องเปรม พี่เขาทำกันทั้งหมดประมาณ 30 กว่าคน เป็นพวกที่เอารุ่น รุ่นพี่เขาให้ยืนเรียงแถวกันตามเลขที่แล้วรุ่นพี่ก็จะเข้ามาต่อยทีละคน เช่น รุ่นพี่เลขที่ 1 จะต่อยรุ่นน้องเลขที่ 1 -30ไปทีละคนรุ่นพี่เลขที่ 2 ก็มาต่อยเรียงกันไปเรื่อยๆ ตามคนที่ 1 รุ่นพี่เลขที่ 3.....เลขที่ 4..... ไปเรื่อยๆ


น้องเปรมโดนทั้งต่อยหน้าอกด้วย แล้วก็โดนถีบด้วย ให้นึกภาพเหมือนทหารเกณฑ์ยืนหน้ากระดานเรียงหนึ่งแล้วครูฝึกมาต่อยท้องทีละคนเพราะฉะนั้น ไม่ใช่แค่ 5 คนนั้นแน่นอน ที่บอกว่ามี 5-6 คนนั้นเพราะพ่อถามว่าใครทำบ้าง แล้วก็รับกันแค่นั้นแล้วเปรมมันเป็นโควิดลงปอด ไม่มีใครรู้ หมอเพิ่งมาบอกทีหลัง ตอนที่ตายไปแล้ว


(แอดมินคิดว่าถ้าเป็นโควิดด้วย กินเหล้าด้วย แล้วถูกกระแทกที่หน้าอกหลายครั้งด้วย โอกาสรอดแทบไม่มีเลยยากมากปอดไม่แข็ง เลือดสูบฉีด และถูกกระแทกที่ปอดหรือลิ้นปี่ ) พอต่อยเสร็จแล้วพี่เขาจะให้เดินกลับ เปรมก็ล้มลงไปหายใจไม่ทันตัวแข็งตาเหลือก พอเอาไปโรงพยาบาลเข้าก็ใส่เครื่องช่วยหายใจแต่หาชีพจรไม่เจอ หมอเลยบอกว่าอย่ายื้อเลยน้องเขาไม่ไหว อย่าไปเชื่อว่ามีแค่ 5 คนครับ.

Monday, March 14, 2022

ตร.ได้เบาะแสใหม่ คดีแตงโม ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ไหนมาก่อน

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (13 มี.ค.) รายการ เรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ โดย สรยุทธ สุทัศนะจินดา และ ไบรท์ พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ รายงานความคืบหน้าในทางการสอบสวนคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา โดยอ้างอิงคำบอกเล่าจากแหล่งข่าว เปิดเผยว่า ตำรวจได้หลักฐานใหม่ล่าสุด เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจากสถานประกอบการใกล้เคียง ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น. และภาพจากวงจรปิดสถานประกอบการอีกแห่งหนึ่ง ที่บันทึกได้ตอนเวลา 22.34 น. เป็นภาพที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ไหน ดูหนังซับไทย




วงจรปิดเห็นภาพว่ามีคนหนึ่ง อยู่ที่ท้ายเรือด้านซ้าย อยู่ในท่ายืน ก่อนจะนั่งลง จากนั้นก็ยืนขึ้น  โดยจังหวะที่ยืนครั้งสุดท้าย เหมือนเงาคนดังกล่าวหายไป ส่วนน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ก็เหมือนมีสิ่งของตกกระทบลงไปในน้ำ เกิดคลื่นกระจายตัวจากจุดศูนย์กลาง แล้วกระจายออกด้านข้างเป็นวงกว้าง การกระจายของน้ำบริเวณนั้น ไม่น่าจะเกิดจากการหักเหของแสงที่กระทบกับคลื่นน้ำเหมือนกรณีคลิปอื่นๆ ที่เคยเห็นกันก่อนหน้านี้



แหล่งข่าวเผยอีกว่า ชุดสืบสวนได้นำภาพจากวงจรปิดที่ได้มา ส่งให้กับบริษัทผลิตภาพยนตร์ที่มีความชำนาญด้านภาพ ช่วยวิเคราะห์เรื่อง ภาพ แสง ปรับระดับความคมชัด เพื่อให้ได้ภาพที่มีความชัดเจนช่วงเวลาสำคัญนี้ เพื่อตรวจสอบว่าวงจรปิดที่ได้มีความสอดคล้อง หรือใกล้เคียงกับข้อมูลและหลักฐานที่มีอยู่เดิม ทั้งข้อมูล GPS ไปจนถึงกล่องบันทึกข้อมูลการเดินเรือ หรือไม่ อย่างไร




Friday, March 11, 2022

สลด! พบแขนเหยื่อเรือบรรทุกน้ำมันระเบิดลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา

 เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.สายันต์ ภูพรรณา สารวัตรสอบสวน สภ.พระประแดง สมุทรปราการ ได้รับแจ้งพบชิ้นส่วนมนุษย์ท่อนแขนลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าท่าเทียบเรือข้ามฝากเทศบาลเมืองพระประแดง ถนนนครเขื่อนขันธ์ ต.ตลาด อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเดินทางเข้าตรวจสอบ  ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19




ที่เกิดเหตุพบเป็นท่อนแขนข้างขวาตั้งแต่หัวไหล่ลงมาถึงปลายนิ้วลอยอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา จึงได้ให้มูลนิธินำขึ้นมาตรวจสอบ พบว่าอยู่ในสภาพขึ้นอืด ซึ่งคาดว่าท่อนแขนของพนักงานเรือน้ำมันที่เกิดระเบิด เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ที่ผ่านมา บริเวณท่าเทียบเรือของบริษัท IRPC จำกัด ในซอยสุขสวัสดิ์ 45 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากสภาพศพที่เจอในที่เกิดเหตุชิ้นส่วนของร่างกายไม่ครบ จึงได้ให้มูลนิธินำส่งตรวจสอบที่สถาบันนิติเวช  


จากการสอบถามชาวบ้านที่ยืนอยู่บริเวณโป๊ะเรือข้ามฟาก ได้ทราบว่าตอนแรกที่เห็นลอยอยู่ในแม่น้ำคิดว่าเป็นแขนตุ๊กตา แต่พอมาใกล้ๆ จึงรู้เป็นแขนของมนุษย์ จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว 

Wednesday, March 9, 2022

ดับอนาถน้องชายยิงพี่สาวตายคาที่ ปมทะเลาะเรื่องแม่ป่วยโควิด-19

 เกิดเหตึน่าสลดขึ้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อน้องชายกับพี่สาวแท้ๆ ทะเลาะกันหนักเรื่องแม่ป่วยเพราะติดเชื้อโควิด-19 แต่หาข้อสรุปกันไม่ได้ ทำให้น้องชายขาดสติยิงพี่สาวแท้ๆ ดับอนาถ  ข่าวบันเทิง




ร.ต.อ.สมเจตน์ นุชนารถ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุยิงกันมีคนเสียชีวิตที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ธัชชัย ทิพเนตร  ผกก.สภ.เมืองสุพรรณบุรีพ.ต.ท.โรจนรุตม์ ดวงสะอาด รอง ผกก.สอบสวน กำลังฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช และสมาคมเณรแก้วกู้ภัยทางหลวงสุพรรณบุรี


ที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถริมน้ำ ถนนขุนราม ต.ท่าพี่เลี่ยง พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงทราบชื่อ น.ส.สมพร อายุ 37 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่ ขา แขน ลำตัว และศีรษะ รวม 8 นัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่ท้ายรถเก๋ง สีดำที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกกระจายเกลื่อนจำนวน 8 ปลอกเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  


จากการสอบถาม นายชูชาติ อายุ 63 ปี ลุงของผู้ตายเล่าว่า คนยิงเป็นน้องชายของผู้ตายชื่อ นายโสพล อายุ 35 ปี ก่อนเกิดเหตุขณะที่ตนกำลังทำงานอยู่ใกล้กันได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันแต่จับใจความไม่ได้ว่าทะเลาะเรื่องอะไร แต่รู้ว่าพี่น้องคู่นี้มีปัญหาทะเลาะกันมานานหลายปี กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ร้ายขึ้น

ทางด้าน พล.ต.ต.เกรียงไกร วุฒิพานิช ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นน้องชายของผู้ตาย โดยผู้ตายประกอบอาชีพขายของโชว์ห่วยและธุรกิจที่จอดรถ ตรงจุดเกิดเหตุ ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุแม่และคนงานของผู้ตายได้ติดเชื้อโควิด-19 ถูกส่งตัวเข้ารักษาที่โรงแรมสองพันบุรี และก่อนเกิดเหตุผู้ตายและผู้ก่อเหตุ กำลังจะพาคนงานชาวเมียนมา ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แต่ก่อนที่จะพาคนงานไปตรวจทั้งคู่เกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นไม่นานน้องชาย ได้เดินไปคว้าปืนในรถยนต์ออกมากระหน่ำยิงพี่สาวอย่างบ้าคลั่งจนพี่สาวล้มลง แต่น้องชายยังไม่หนำใจเดินไปจ่อยิงซ้ำอีกหลายนัดจนพี่สาวขาดใจ จึงเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมรับสารภาพว่าตนสุดจะทนแล้วจึงได้ลงมือก่อเหตุ


ทางด้านพ่อของผู้ตายหลังทราบว่าว่าลูกฆ่ากันตายก็รีบเดินทางมาจาก อ.สองพี่น้อง มาดูที่เกิดเหตุพร้อมญาติพี่น้อง เมื่อเห็นร่างของลูกสาวนอนจมกองเลือดก็ร้องไห้โฮแทบขาดใจ พร้อมกล่าวว่าพี่น้องคู่นี้มีปัญหาทะเลาะกันมาตั้งแต่เด็ก ไม่สามารถอยู่ร่วมกันได้ตนจึงซื้อบ้านให้ลูกชายอยู่คนละที่แต่ไม่ไกลกัน ส่วนลูกสาวก็ซื้อที่เปิดร้านขายของชำให้และที่จอดรถเก็บค่าจอด แต่ไม่คิดว่าพี่น้องจะมาฆ่ากันเอง


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายโสพล น้องชายผู้ตาย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต หากสอบสวนพบว่ามีความผิดอื่นเพิ่มก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมต่อไป

Tuesday, March 8, 2022

ศจ.ธงชัย แจงขั้นตอนพิธีไว้อาลัย "แตงโม" ไม่มีการนำร่างมาโบสถ์

 วานนี้ (8 มี.ค.) ศาสนาจารย์ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ศิษยาภิบาลคริสตจักรแห่งความสุข แถลงข่าวการจัดงานไว้อาลัยให้กับแตงโม นิดา ดาราสาวผู้ล่วงลับ ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19




โดยระบุว่า งานจะจัดเป็นเวลา 3 วัน คือวันที่ 11-13 มีนาคม 2565 ในช่วงเวลา 18.30 - 20.30 น. ณ คริสตจักรเสรีภาพกรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ถนนกาญจนาภิเษก ซอย 25 แยก 1 (ใกล้แอร์พอร์ตลิ้งค์ สถานีลาดกระบัง) ซึ่งเป็นโบสถ์ที่ใหม่ที่สุด ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีเครื่องมือที่ทันสมัย สามารถรองรับผู้ร่วมงานได้มากกว่า 3,000 คน

แต่ด้วยมาตรการป้องกันโควิด19 กรุงเทพมหานคร จึงกำหนดให้แต่ละคืน มีผู้สามารถมาร่วมงานได้คืนละ ไม่เกิน 1,000 เท่านั้น ทุกคนที่จะมาร่วมงานต้องลงทะเบียนมาล่วงหน้า โดยสามารถดูรายละเอียดได้ที่เพจ CJ - church of joy คริสตจักรแห่งความสุข หากใครที่ไม่ได้ร่วมงานสามารถติดตามทางยูทูบของ CJConnect ได้

ทั้งนี้ ภายในงานจะไม่มีการนำร่างแตงโมมาที่โบสถ์ ร่างของแตงโมจะอยู่ที่นิติเวช หลังเสร็จพิธีไว้อาลัยแล้ว ทางครอบครัวจะไปรับร่างของแตงโม วันที่ 14 มีนาคม 2565 มาทำพิธีฌาปนกิจเป็นการภายในครอบครัว ญาติ และเพื่อนสนิทเท่านั้น เพราะห้องทำพิธีก่อนฌาปนกิจศพ เป็นห้องขนาดเล็ก สถานที่จุคนได้ไม่ถึง 100 คน ณ คริสตจักรเมธอดิสท์ รังสิต คลอง 4 ซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับพิธีศพของพ่อแตงโม นายโสภณ พัชรวีระพงษ์

สำหรับกิจกรรมแต่ละวันจะมีการอธิฐานขอพร มีการร้องเพลงที่แตงโมชอบโดยทีมนมัสการ จากนั้นจะเป็นคลิปของแตงโม และมีคุณแม่ของแตงโมมากล่าวประวัติ ซึ่งในงานจะมีการแบ่งปันคติธรรมมรณสติ และที่สำคัญทั้ง 3 คืนจะมีการขับร้องบทเพลงพิเศษ จาก 3 ศิลปินดัง ประกอบด้วยคืนแรก ปุ๊ อัญชลี / คืนที่ 2 บี พีรพัฒน์ / และคืนที่ 3 บอย พีซเมกเกอร์

Saturday, March 5, 2022

กรมเจ้าท่า นัด "ปอ ตนุภัทร" เจ้าของเรือสปีดโบ๊ท เข้าพบ

 เกี่ยวกับเรื่องนี้ (4 มี.ค. 65) นายอำนาจ สอนหมวก ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขา นนทบุรี ปฏิเสธว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีการนัดหมาย ปอ ตนุภัทร มาพบ หรือได้รับแจ้งจากเจ้าตัวว่าจะมาพบแต่อย่างใด และไม่ทราบว่ากระแสข่าวดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร  ข่าวหนังใหม่



โดยทีมข่าวได้สอบถามนายอำนาจ เกี่ยวกับการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเรือสปีดโบ๊ท ว่า มีความผิดหรือไม่ นายอำนาจบอกว่า ตามกฎหมายห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บนเรือสาธารณะเท่านั้น แต่กรณีดังกล่าวเป็นเรือส่วนตัว จึงไม่มีกฎหมายห้าม



แต่หากดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับเรือจนเกิดอุบัติเหตุ ก็จะเข้าข่ายกระทำการโดยประมาทฯ ดำเนินคดีกับผู้บังคับเรือขณะเกิดเหตุได้



สำหรับข้อมูลเรือลำเกิดเหตุ มีชื่อว่า โคบอล 25 หมายเลขทะเบียนเรือ 646646700327 ขนาด 5.21 ตันกรอส ประเภทเรือเป็นเรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้สำหรับสำราญและกีฬา (เรือเร็ว) บรรทุกได้ 8 คน



จดทะเบียนเรือเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 64 ณ เมืองท่าพัทยา ทะเบียนเรือหมดอายุ 27 ม.ค. 65 โดย กรมเจ้าท่า เคยออกประกาศให้เจ้าของเรือมาดำเนินการต่ออายุใบอนุญาตใช้เรือได้ ต่อจากวันสิ้นสุดได้อีก 60 วัน ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถือเป็นการขยายเวลาหรืออายุของใบอนุญาตใช้เรือออกไปได้


แต่มีข้อบังคับว่าเจ้าของเรือต้องทำการต่อสัญญาประกันภัย และกรมธรรม์ประกันภัยที่มีผลเป็นการคุ้มครองผู้โดยสารเท่านั้น


จากการตรวจสอบพบว่า เรือมีประกันภัยคุ้มครองและสิ้นสุดการคุ้มครอง 28 ม.ค. 65 ฐานข้อมูลดังกล่าวจึงสรุปได้ว่าใบอนุญาตใช้เรือลำนี้ได้สิ้นสุดลงแล้ว และชื่อที่ใช้จดทะเบียนเรือคือ นายประภิณวิช เป็นเจ้าของเรือ


แต่ในวันเกิดเหตุ นายตนุภัทร หรือ ปอ เป็นหนึ่งในผู้ขับเรือ ซึ่งจากการตรวจสอบในระบบฐานข้อมูลคนประจำเรือของ กรมเจ้าท่า พบว่า นายตนุภัทร ไม่มีใบประกาศนียบัตรคนประจำเรือแต่อย่างใด

กลางดึกของเมื่อวาน (3 มี.ค. 65) ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ย้าย “เรือสปีดโบ๊ต” ลำที่แตงโมตกแม่น้ำเจ้าพระยาเสียชีวิต จากอู่จอดเรือ NBC Nontaburi BOAT CLUB ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี โดยลากไปจอดไว้ที่สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทนนทบุรี บริเวณใต้สะพานเจษฎาบดินทร์ ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี

โดย ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงชนบทนนทบุรี กล่าวว่า ตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี ได้ประสานขอใช้พื้นที่สำนักงานแขวงทางหลวงชนบทนนทบุรี เพื่อขอจอดเรือสปีดโบ๊ต ที่ตำรวจอายัดไว้เป็นของกลางในคดี “แตงโมตกเรือ” เจ้าหน้าที่ทางแขวงเห็นว่ามีพื้นที่กว้างขวาง จึงไม่ขัดข้อง อนุญาตให้นำเรือดังกล่าวมาจอดได้

Wednesday, March 2, 2022

ใกล้พบความจริง คดีแตงโม มีผู้ชาย 1 คน จะไขปริศนา?

 ขณะที่ ความคืบหน้าคดี แตงโม “นิดา พัชรวีระพงษ์” ดาราสาวตกเรือเสียชีวิต พนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายพยายามเร่งรัดคดีเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคม ในทางหนึ่งเวลาที่ทอดออกมาก็ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตำรวจ ว่า ทำงานช้า ชาวเน็ตบางคนถึงกับตั้งข้อสงสัยว่า ตอนนี้ระหว่างตำรวจกับกลุ่มคนบนเรือ ใครน่ามีพิรุธมากกว่ากัน ? รีวิวการ์ตูนอนิเมะ



ตามด้วยข้อสงสัยว่า มีความพยายามวิ่งเต้นช่วยเหลือผู้ที่อาจถูกดำเนินคดีหรือไม่ เพราะแว่วว่า คนบนเรือบางคนมี “แบ็ก” ดี ซึ่งตำรวจก็ยอมรับว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี อาจจะรู้จักคนมาก แต่คดีนี้ “บิ๊กปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ลงมากำกับดูแลด้วยตัวเอง และตำรวจจะพิจารณาจากพยานหลักฐานที่อธิบายได้ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น



พูดง่ายๆ ว่า ตำรวจให้คำมั่นต่อสังคม งานนี้จะไม่มีรายการ “หมกเม็ด” ให้คาใจกัน ซึ่งตำรวจเองก็ต้องยอมรับว่าไม่มีทางเลือกอื่น เพราะข่าวการเสียชีวิตของ “แตงโม” สังคมติดตามเกาะติดให้ความสำคัญกันต่อเนื่อง ทั้งแง่มุมเงื่อนงำ และพิรุธต่างๆ ที่บรรดานักสืบโซเชียล ช่วยกันขุดคุ้ยมานำเสนอบนสื่อโซเชียล ตลอดหลายวันที่ผ่านมา



ยกตัวอย่างเมื่อวาน (2 มี.ค.) เป็นอีกวันที่พีก หลังจาก “แอนนา” เพื่อนสนิทของแตงโม ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “แอนนา” ว่า “วันนี้รอฟังข่าว” และยังบอกต่อในช่องแสดงความเห็นว่า “รอตำรวจแถลงนะคะ” และ “มีคนดี 1 คนเกิดขึ้นแล้ว” ทำให้สังคมเฝ้าติดตามกันว่า ความจริงที่รอกันอยู่กำลังจะถูกเปิดเผยหรือไม่


สอดคล้องกับ เพจ “แหม่มโพธิ์ดำ” ที่สร้างเครดิตในโซเชียล กับเรื่องราวที่มีเงื่อนงำทั้งหลายก่อนนี้ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “ผู้ชาย 1 คน จะเป็นคนไขปริศนาทุกอย่างของเรื่องนี้”


โดย “แหม่มโพธิ์ดำ” ยังโพสต์ด้วยว่า หนึ่งในคนที่อยู่บนเรือให้การกับตำรวจ ว่า มีคนอยากลองขับเรือ แต่ขับไม่เป็น ทำให้ตอนออกเรือกระชากจนแตงโมหงายหลัง ตอนนั้นแตงโมพยายามจับมือคนๆ หนึ่งไว้ แต่ถูกเจ้าตัวสะบัดออก เพราะกลัวตกลงไปด้วย จนแตงโมพลัดตกแม่น้ำเจ้าพระยาในที่สุด


นี่ยิ่งทำให้หลายคนต่างสงสัยว่าจะมีข้อมูลอะไรใหม่ๆ เกี่ยวกับคดีการเสียชีวิต ของ “แตงโม นิดา” ออกมาหรือไม่ และใครคือชายปริศนาคนนั้น ?

รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "...