Wednesday, February 23, 2022

หนุ่มขอนแก่นข่มขืนสุนัข ตายทั้งคนทั้งหมา คาดหัวใจวาย!

 ร.ต.อ.ไพโรจน์ สันดี รอง สว. (สอบสวน) สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ สภ.บ้านไผ่ว่า พบศพคนเสียชีวิต ที่กระท่อมกลางทุ่งนาในพื้นที่บ้านหนองหญ้าปล้อง จ.ขอนแก่น ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย



หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบจากนั้นได้ประสานแพทย์เวรจากโรงพยาบาลบ้านไผ่และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพุทธญาณสมาคมบ้านไผ่ ร่วมตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพผู้เสียชีวิต พบศพชายอายุ 56 ปี (สงวนชื่อ นามสกุล) ชาวจังหวัดขอนแก่น นอนเสียชีวิตในสภาพ นอนทับร่างสุนัขเพศเมียสีขาว โดยอวัยวะเพศยังติดคาอยู่กับอวัยวะเพศของสุนัขตัวดังกล่าว เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา



พบว่าที่ลำคอของผู้ตายมีกางเกงในของผู้หญิงคล้องคออยู่ 5 ตัว โดยที่สุนัข อยู่ในสภาพเท้าทั้ง 4 ข้าง ถูกมัดขาไว้กับราวไม้บริเวณที่ผู้ตายนอน โดยสุนัขตัวดังกล่าวได้เสียชีวิต ส่วนบริเวณผนังห้องนอนของคนตาย เต็มไปด้วยภาพโป๊เปลือย และมีตุ๊กตามนุษย์ตัวใหญ่อยู่ข้างศพ



ด้าน น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า พี่ชายเคยมีภรรยาและมีบุตร 1 คน โดยได้เลิกกับภรรยามากว่า 7 ปีแล้ว และพี่ชายก็ป่วยเป็นโรคหัวใจ และขาดยามานานเช่นกัน ไม่ยอมไปหาหมอเอายามากิน จากนั้นก็ย้ายออกมานอนที่กระท่อมนา และไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับใคร และทราบจากเพื่อนบ้านว่าพี่ชายขโมยเอากางเกงในเพื่อนบ้านเป็นประจำ




ด้านร.ต.อ.ไพโรจน์ กล่าวว่า จากการชันสูตรศพของแพทย์ คนตาย ตายมาแล้วประมาณ 6 ชม.ไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรือรื้อค้น พบเพียงสุนัขเพศเมีย สีขาว อายุ 4 ปี ซึ่งเป็นสุนัขที่คนตายเลี้ยงไว้ ถูกมัดขาทั้ง 4 ข้างกับราวไม้ของกระท่อมนา สันนิษฐานว่า แพทย์ชันสูตรศพลงความเห็นว่า หัวใจวายตาย อาจจะเกิดจากการร่วมเพศกับสุนัขก็เป็นได้ ซึ่งญาติพี่น้องไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

Tuesday, February 22, 2022

ผัวพูดเป็นลางบอกไม่กลับมาแล้ว ไม่นานเมียทรายข่าวผัวเสยท้ายรถพ่วงดับ !

 หนุ่มขี่รถบิ๊กไบค์กลับบ้านพุ่งชนท้ายรถบรรทุกอ้อยจอดข้างทาง เสียชีวิตคาที่ ภรรยาถึงกับเข่าทรุด ลูก 3 ขวบ ต้องรอพ่อก่อนนอนทุกวัน เผยสามีบอกเป็นลางกับลูกตอนเช้า ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



วันนี้ (23 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท อดิชาติ มีสา รองผกก. (สอบสวน) สภ.เมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถบรรทุกอ้อยมีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมเข้าร่วมตรวจสอบ



ที่เกิดเหตุเป็นถนน 2 เลน สายกลันทา-บ้านเสม็ด ระหว่างบ้านโคกกลาง ต.กลันทา พบรถยนต์บรรทุกอ้อย 10 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-2758 บุรีรัมย์ บรรทุกอ้อยมาเต็มคันรถจอดอยู่ข้างทาง



ท้ายรถบรรทุกพบหมวกกันน็อคหล่นอยู่ มีเศษมันสมอง กระจายเกลื่อนถนน กลางถนนพบศพ นายอานนท์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า กระโหลกศีรษะด้านซ้ายหายไปทั้งแถบ ห่างกันประมาณ 10 เมตร พบรถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็ม-สแลซ สีดำ หมายเลขทะเบียน 4191 บุรีรัมย์ ตกอยู่ในป่าข้างทาง สภาพด้านหน้าพังเสียหาย



จากการสอบถาม นายเอื้อน อายุ 42 ปี คนขับรถรถบรรทุกอ้อย ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้การว่า ได้บรรทุกอ้อยจากไร่ จะไปส่งโรงงานน้ำตาล ใน อ.คูเมือง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุรู้สึกเกิดปวดปัสสาวะ จึงจอดรถแอบข้างทาง จังหวะที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่นั้นได้ยินเสียงดังโครม จึงรีบวิ่งมาดู พบว่ามีคนนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ



ต่อมาได้มี น.ส.นิตยา อายุ 22 ปี ภรรยาผู้ตาย มาถึงหลังได้รับแจ้ง ถึงกับเข่าทรุด พร้อมกับร่ำไห้ด้วยความเสียใจ และทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




น.ส.นิตยา เล่าว่า สามีทำงานที่คลังเก็บสินค้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ปกติสามีจะกลับค่ำเกือบทุกวัน สามีเป็นคนขยัน ทุกวันลูกชายวัย 3 ขวบจะไม่ยอมเข้านอน เพราะรอพ่อกลับบ้านก่อน แต่วันนี้กลับช้ากว่าปกติ




ตนรู้สึกสังหรณ์ใจ เนื่องจากตอนเช้าก่อนสามีจะออกไปทำงาน ได้พูดกับลูกชายวัยว่า "เดี๋ยวพ่อก็ไปแล้วนะลูก พ่อจะไม่กลับมาแล้ว" ตนเองจึงทักท้วงสามีไปว่าทำไมพูดแบบนั้น  และไม่คิดว่าสามีจะเสียชีวิตแบบนี้


เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

Monday, February 21, 2022

"บิ๊กป้อม" ลาประชุม เพราะท้องเสีย เผยอาการไม่น่าเป็นห่วง

 พริกน้ำส้มเป็นเหตุ! พล.อ.ประวิตร ท้องเสียลาประชุม ครม. ด้านคนใกล้ชิดเผยหมอเข้าตรวจอาการแล้วที่บ้านป่ารอยต่อฯ ไม่น่าเป็นห่วง ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19






วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ส่งหนังสือลาประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ในขณะที่เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร ก็ไม่ได้เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ ครั้งที่ 1/2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล


ทั้งนี้ แหล่งข่าวคนใกล้ชิด เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร มีอาการท้องเสีย ปวดท้อง ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เนื่องจากรับประทานพริกน้ำส้มเข้าไป จนส่งผลให้อาหารเป็นพิษ ท้องเสีย และมีอาการอ่อนเพลีย จึงขอลาประชุมครม.


โดยเมื่อวานนี้ แพทย์ได้เข้าตรวจอาการที่บ้านพักในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ซึ่งอาการไม่น่าเป็นห่วง คาดว่าในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) พล.อ.ประวิตร จะสามารถมาทำงานได้ตามปกติ

Sunday, February 20, 2022

นาทีระทึก เฮลิคอปเตอร์ร่วงตกในหาดไมอามี สหรัฐฯ

 นาทีระทึก เฮลิคอปเตอร์ร่วงลงสู่ทะเล ใกล้ชายหาดไมอามี สหรัฐฯ ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากที่กำลังเล่นน้ำและนอนอาบแดด ข่าวหนังใหม่



เมื่อวันที่ 19 ก.พ. ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) เกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ร่วงลงสู่ทะเล ใกล้ชายหาดไมอามี ในรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากที่กำลังเล่นน้ำและนอนอาบแดดอยู่ โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ถูกนำตัวส่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล



ภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่บนทวิตเตอร์โดยกรมตำรวจไมอามี บีช โดยระบุว่า พวกเขาได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุตอนเวลา 13.10 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) และมีผู้โดยสาร 3 คนบนเฮลิคอปเตอร์ และมีอยู่ 2 รายที่ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลแจ็คสันเมมโมเรียล โดยทั้ง 2 คน อาการทรงตัว


คลิปที่ถูกนำมาโพสต์ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งกำลังดิ่งลงสู่มหาสมุทรแอตแลนติก ไม่ไกลจากบรรดานักท่องเที่ยวที่กำลังเล่นน้ำและอาบแดดอยู่บนชายหาดไมอามี

ด้าน มารี เชียร์โว อดีตผู้ตรวจการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นกับซีเอ็นเอ็นว่า วิดีโอดังกล่าวบ่งชี้ว่าดูเหมือนเครื่องยนต์ของเฮคอปเตอร์จะขัดข้อง ซึ่งมีสองสิ่งที่สำคัญที่เห็นได้จากเหตุดังกล่าวคือ หนึ่งนักบินถูกฝึกมาอย่างดี และสองเขาสามารถควบคุมเครื่องได้แม้เครื่องยนต์จะไม่ทำงาน เมื่อเสียเครื่องยนต์ไป คุณจะไปไหนไม่ได้ ทางเดียวที่มีคือหาวิธีลงให้ได้


นอกจากนี้ เธอยังระบุอีกว่า หลังจากได้ดูวิดีโอนี้ ดูเหมือนว่านักบินสามารถควบคุมเฮลิคอปเตอร์ให้ตกห่างจากบรรดานักท่องเที่ยวที่แออัดกันอยู่บริเวณชายหาด


ขณะที่ องค์การบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบกรณีแวดล้อมของเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งนี้ และบอกว่าทางหน่วยงานจะทำการสืบสวนอุบัติเหตุครั้งนี้ร่วมกับคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ

Thursday, February 17, 2022

แม่ค้าขายปลาถูกรางวัลที่ 1 ฉลองด้วยการแจกปลาเกลี้ยงแผง

 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ก.พ.) เมื่อเวลา 18.00 น. ร.ต.ท.ทวีศักดิ์ ผกามาศ ร้อยเวร สภ.วังจันทร์ ระยอง ได้รับลงแจ้งจาก นางศรีนวล อายุ 62 ปี  ว่าถูกรางวัลที่ 1 พร้อมนำสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 097597 งวดประจำวันที่ 17 ก.พ. 2565 จำนวน 1 ใบ มาเป็นหลักฐาน รีวิวการ์ตูนอนิเมะ




หลังจากตรวจสอบพบว่าสลากใบดังกล่าวตรงกับหมายเลขของรางวัลที่ 1 งวดประจำวันที่ 17 ก.พ. 2565 แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน 



นางศรีนวล เล่าให้ฟังด้วยความดีใจว่า ตนเองมีอาชีพขายปลาน้ำจืดและมะม่วง ขณะกำลังขายของอยู่ที่ตลาดนัด หลังโรงเรียนวังจันทร์วิทยา อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เมื่อรู้ว่าถูกรางวัลที่ 1 ก็ดีใจจนเป็นลมไป 2 รอบ


ก่อนจะตั้งสติได้ จึงแจกปลาที่ขายให้กับชาวบ้านและแม่ค้าในตลาดไปทั้งหมด ก่อนจะเก็บร้านแล้วเดินทางมาแจ้งความแล้วจะกลับบ้านไปเตรียมตัวเดินทางไปขึ้นรางวัลในวันรุ่งขึ้น 

นางศรีนวล เปิดเผยต่อว่า ก่อนจะซื้อเลข 597 ได้ฝันเห็นพ่อและตามาเข้าฝันแล้วบอกให้ซื้อเลข 597 โดยมาเข้าฝันติดต่อกันถึง 3 คืน จึงนำเลขดังกล่าวไปซื้อ ซึ่งงวดที่แล้วก็ถูกเลข 3 ตัว จึงไปซื้อเลขดังกล่าว ปรากฎว่าเหลือเพียง 1 ใบ ดีใจมาก หลังขึ้นรางวัลเตรียมนำเงินไปทำบุญให้บรรพบุรุษ และแบ่งให้บุตรทั้ง 3 คน เหลือ 2 ล้านบาท เก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว  


ด้าน เจ้าของร้านขายสลากกินแบ่งรัฐบาลที่นางศรีนวลซื้อ เปิดเผยว่า นอกจากนางศรีนวล แม่ค้าปลาที่ถูกรางวัลที่ 1 แล้ว ยังมีผู้ชายอีกหนึ่งคนที่มาซื้อแบ่งไปก่อน 1 ใบ ซึ่งไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน 

Wednesday, February 16, 2022

วงจรปิดเผยภาพก่อนเด็ก 2 ขวบจมน้ำดับ พูลวิลล่าดังชลบุรี

 เผยภาพวงจรปิด เด็ก 2 ขวบ จมสระน้ำในพูลวิลล่าดับ ตำรวจเตรียมเรียกสอบปากคำพ่อแม่เพิ่ม หลังเสร็จงานศพ  ข่าวการเมือง เศรษฐกิจในประเทศไทย



จากกรณีเมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุเด็ก 2 ขวบ จมน้ำ อาการสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดภายในบ้านพูลวิลล่า ภายในซอยพระตำหนัก 4 เมืองพัทยา ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี   


ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (16 ก.พ.) ได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.กุลชาต กุลชัย ผกก.สภ.เมืองพัทยา เกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า ในเบื้องต้นได้ทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิตของหนูน้อยวัย 2 ขวบ

รวมทั้งภาพวงจรปิดซึ่งหนูน้อยวัย 2 ขวบ ตกลงไปในสระเป็นเวลาประมาณ 1 นาที ทางพ่อก็นำเด็กขึ้นมาทันที ซึ่งระหว่างที่เด็กจมน้ำนั้นทางพ่อแม่กำลังปิ้งย่าง ทำอาหารอยู่ เมื่อเห็นลูกตกน้ำก็ได้ทำการช่วยเหลือทันที


ซึ่งทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ได้เก็บหลักฐานต่างๆ และให้ทางพ่อแม่เด็กดำเนินการเกี่ยวงานศพให้เรียบร้อย ก่อนจะเรียกมาสอบปากคำอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป 

Tuesday, February 15, 2022

เด็กชาย 2 จมน้ำดับพูลวิลล่าชื่อดัง วอนอย่าซ้ำเติมพ่อแม่

 เด็ก 2 ขวบลูกเน็ตไอดอล จมน้ำดับ ขณะพ่อแม่กำลังถ่ายรูปทำคอนเทนต์ วอนโซเชียลหยุดซ้ำเติม เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



จากกรณีวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุกลางดึกว่า มีเด็กชาย อายุ 2 ขวบ จมน้ำเสียชีวิตในสระน้ำภายในบ้านพูลวิลล่า ซอยพระตำหนัก 4 เมืองพัทยา จึงรุดลงพื้นที่ตรวจสอบ พบพ่อและแม่ของเด็กชายอุ้มร่างลูกออกมาขอความช่วยเหลือตรงบริเวณทางเข้าบ้านพลูวิลล่าที่เกิดเหตุ



ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือด้วยการปั๊มหัวใจ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือไว้ได้ทัน ซึ่งพ่อและแม่ของเด็กชายร้องไห้แทบขาดใจอยู่ข้าง ๆ โดยเบื้องต้นทราบว่า พ่อของเด็กเป็นช่างภาพ พาลูกและภรรยามาถ่ายภาพที่บ้านพลูวิลล่าดังกล่าว โดยเหตุเกิดขึ้น ขณะที่พ่อและแม่อยู่ชั้นบนกำลังถ่ายรูป และปล่อยให้ลูกเล่นน้ำที่ชั้นล่าง ส่วนรายละเอียดอย่างอื่นนอกจากนี้ทางครอบครัวไม่ขอเปิดเผย



ขณะที่ทีมข่าวตรวจสอบไปที่เฟซบุ๊กของผู้เป็นแม่ พบว่าเป็นเน็ตไอดอลสายเซ็กซี่ และมีสามีเป็นช่างภาพ ซึ่งหลังเกิดเหตุสลดได้โพสต์ภาพที่ตัวเองกอดร่างของน้องวีโอ ลูกชาย พร้อมเขียนข้อความ "กลับมาหาแม่นะลูก ใจแม่จะขาดแล้ว ไม่มีหนูแม่จะอยู่ยังไง" 



ล่าสุดในวันนี้ (16 ก.พ.65) เป็นวันคล้ายวันเกิดอายุ 3 ขวบ ของน้องวีโอ ซึ่งทางพ่อและแม่ของน้องได้จัดงานวันเกิดและเป่าเค้กให้ลูกชายภายในงานศพซึ่งจัดขึ้นที่วัดลาดปลาเค้า ศาลา 8 


อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตต่างแสดงความคิดเห็นกับข่าวนี้กันเป็นจำนวนมาก มีทั้งแสดงความเสียใจกับครอบครัว รวมถึงมีบางความเห็นที่ตำหนิพ่อแม่เด็กที่มัวแต่ทำคอนเทนต์จนลูกจมน้ำ ซึ่งก็มีหลายคนเห็นใจและมองว่าการถ่ายรูปเป็นงานของพ่อแม่ และสิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิด จึงไม่ควรซ้ำเติมครอบครัวผู้สูญเสียอีก

Sunday, February 13, 2022

ออกหมายจับ ผู้สมรู้ร่วมคิด คดีหลอกซื้อทอง 100 บาท จ.หนองคาย

 คดีที่คนร้ายทำทีเป็นลูกค้าเข้าไปติดต่อขอซื้อทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 100 บาท จากร้านทองแห่งหนึ่งในตัวเมืองหนองคาย โดยจ่ายเงินเป็นเช็คมูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท แต่พอคนร้ายรับทองคำออกจากร้านไปแล้ว เจ้าของร้านเพิ่งรู้ว่าเช็คที่คนร้ายสั่งจ่ายให้นั้นเป็นเคลียริงเช็ค ไม่มีเงินเข้าบัญชีของร้านแม้แต่บาทเดียว ล่าสุดตำรวจออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุแล้ว 1 คน    ข้อมูลเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19



เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งที่เห็นนี้เป็นภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในร้านทองที่เกิดเหตุแห่งหนึ่ง ริมถนนมีชัย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย บันทึกภาพขณะคนร้ายสวมเสื้อผ้าชุดสีดำ และสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า เดินเข้าไปในร้านแล้วติดต่อสอบถามซื้อทองรูปพรรณน้ำหนัก 100 บาท รวมมูลค่า 2.9 ล้านบาท โดยอ้างว่าต้องการนำทองคำทั้งหมดไปแจกลูกค้า และฝากญาติพี่น้อง



ซึ่งตอนนั้นเจ้าของร้านไม่ได้เอะใจว่าชายคนนี้จะเป็นคนร้ายที่แฝงตัวมาในคราบลูกค้า กระทั่งมีการตกลงจ่ายเงิน คนร้ายได้ขอเลขบัญชีของทางร้าน พร้อมกับโทรศัพท์คุยกับคนปลายสายบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีของร้านได้เลย จากนั้นไม่นานเจ้าของร้านโทรศัพท์ไปสอบถามธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ พบว่ามีเงินจำนวน 2.9 ล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีจริง โดยสั่งจ่ายเป็นเช็ค (แต่ตอนนั้นทางร้านไม่รู้ว่าเป็นเคลียริงเช็ค มีแต่ตัวเลข ไม่มีเงินเข้าบัญชีจริง) จึงมอบสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 100 บาท ให้กับชายดังกล่าวถือเดินออกจากร้านไป จนเวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที เจ้าของร้านกลับไปเปิดอ่านข้อความที่ธนาคารส่งมาทางโทรศัพท์ ตรวจสอบซ้ำอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงรู้ว่าเช็คที่สั่งจ่ายมาให้นั้นเป็นเคลียริงเช็ค จึงพยายามติดต่อกลับไปชายที่มาติดต่อซื้อทอง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมั่นใจว่าต้องเป็นมิจฉาชีพ จงใจมาถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน


หลังเกิดเหตุเจ้าของร้านทองเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย จนนำไปสู่การสืบสวนสอบสวนโดยพบข้อมูลว่า ขบวนการนี้จะให้ฝ่ายชาย ทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอซื้อทองคำ และส่วนมากจะใช้คำอ้างที่ว่า ต้องการซื้อไปฝากญาติ และแจกลูกน้องอะไรทำนองนี้ ส่วนฝ่ายหญิง จะทำหน้าที่ไปธนาคาร นำเช็คเข้าบัญชีให้ร้านทอง แต่เป็นการเคลียริงเช็ค ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบข้อมูลชื่อผู้หญิงตามที่ระบุในเช็ค ชื่อ นางสาวพิชชาภา เคยมีประวัติก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วในพื้นที่จังหวัดชลบุรี กระทั่งมาก่อเหตุครั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดหนองคาย


ด้านตำรวจ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบข้อมูลของหญิงที่ไปติดต่อธนาคารนำเช็คไปเข้าบัญชีของร้านทอง จนสามารถยืนยันตัวบุคคลเป็นที่แน่ชัดแล้ว เมื่อวานนี้ (13 ก.พ.) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย จึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นขอศาลจังหวัดหนองคาย ออกหมายจับ นางสาวพิชชาภา ครณรงค์ อายุ 47 ปี ชาวตำบลหนองยาว อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชี" ซึ่งเป็นคดีอาญา มีอายุความ 10 ปี พร้อมกันนี้ได้ประสานตำรวจทุกพื้นที่ช่วยติดตามจับกุม 


ส่วนชายที่เป็นผู้ติดต่อกับร้านทองนั้น ขณะนี้ตำรวจกำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่าเป็นใคร พร้อมทั้งอยู่ระหว่างไล่ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด โดยเฉพาะในช่วงเวลาเกิดเหตุ เบื้องต้นคาดว่าผู้ร่วมขบวนการ 3 คน โดยคนหนึ่งเป็นคนขับรถใช้รถยนต์ (ยี่ห้อฮอนด้า เอชอาร์วี) สีขาว พาผู้หญิงไปส่งที่ธนาคารภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง จากนั้นขับรถพาผู้ชายไปส่งบริเวณร้านทอง ซึ่งหากจับกุมผู้หญิงได้ก่อนจะควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล ก็น่าจะติดตามเพื่อนร่วมขนวนการได้ง่ายขึ้น


และในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา นอกจากร้านทองในจังหวัดหนองคาย ยังมีร้านทองอีกหลายเจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกัน อย่างร้านทองที่จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าของร้าน เผยว่า เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีชายรูปร่างผอม บุคลิกคล้ายกับชายที่ก่อเหตุในร้านทองที่จังหวัดหนองคาย ทำทีมาติดซื้อทองบอกว่าจะซื้อฝากญาติพี่น้อง น้ำหนัก 200 บาท มูลค่า 5.8 ล้านบาท โดยจ่ายเป็นเช็ค แต่พอตรวจสอบไม่มียอดเงินเข้าบัญชีของร้าน จึงไม่ได้มอบทองกับคนร้าย


เช่นเดียวกับร้านทองอีกร้านที่จังหวัดสุรินทร์ เจอเหตุการณ์เหมือนกันเลย เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ชายรูปร่างผอม มาคนเดียว เข้ามาติดต่อซื้อทองคำนำ้หนัก 200 บาท โดยสงสัยว่าน่าจะเป็นคนร้ายคนเดียวกันด้วย เพราะมาอุบายเดิม ๆ บอกเจ้าของร้านว่าจะซื้อไปฝากญาติ แต่จากประสบการณ์ขายช่ำชอง เจ้าของร้านไม่หลงกล จึงไม่เสียรู้


ด้าน สมาคมค้าทองคำ เตือนร้านทองทั่วประเทศ ช่วงราคาทองคำผันผวน ให้ระมัดระวังมิจฉาชีพอาศัยช่องโหว่ หลอกซื้อทองคำด้วยเช็คเงินสด


นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ออกมาเตือนร้านทองให้ระวังมิจฉาชีพหลอกซื้อทองคำ โดยใช้ช่องว่างของขั้นตอนการชำระค่าสินค้าด้วยเช็คเรียกเก็บจากธนาคาร หรือ เคลียริงเช็ค ซึ่งมีร้านทองหลายร้านไม่ทันระวังและเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะการซื้อขายในมูลค่าที่สูง ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีเงินเข้าบัญชีแล้ว พร้อมขอบัตรประจำตัวประชาชนจากผู้ซื้อ และออกใบกำกับภาษีไว้เป็นหลักฐาน เพื่อป้องกันการเรียกตรวจสอบจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ในส่วนของ สมาคมค้าทองคำ มีร้านทองเป็นสมาชิกกว่า 2,000 ร้านทั่วประเทศ พบมีกรณีดังกล่าวไม่มาก เนื่องจากทางสมาคมมีการแจ้งเตือนอย่างสม่ำเสมอ


Saturday, February 12, 2022

ตำรวจตามจับผู้ต้องหาหลบหนีระหว่างนำตัวไปฝากขัง จ.ตาก

ตำรวจ สภ.แม่สอด สนธิกำลังตำรวจ สภ.อุ้มผาง จังหวัดตาก ระดมกำลังปิดล้อมค้นหาตามจุดต้องสงสัย บินโดรน และขอกำลังสุนัขสงคราม หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 14 ไล่ล่าผู้ต้องหาคดียาเสพติด หลังจากพังประตูรถผู้ต้องขังหลบหนี ในระหว่างตำรวจนำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดแม่สอด และจอดแวะเข้าห้องน้ำที่ สภ.แม่สอดผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงพบหลบอยู่ในโพรงหญ้าหลังร้านสะดวกซื้อบ้านหัวฝาย สภาพอ่อนแรง จึงคุมตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดแม่สอด




สกัดจับแก๊งหลอกดาวน์รถจักรยานยนต์ ส่งขายกัมพูชา จ.สระแก้ว ข่าวหนังใหม่

ตำรวจชุดสืบสวน สภ.คลองหาด สกัดจับขบวนการหลอกดาวน์รถจักรยานยนต์ ตามพื้นที่ต่างๆ ก่อนจะเชิดรถหลบหนี เพื่อนำไปส่งขายตามแนวชายแดน อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้้ว พบของกลางรถจักรยานยนต์ 7 คัน และจับกุมผู้ต้องหา 1 คน พร้อมรถกระบะโตโยต้าสีขาวที่ใช้บรรทุกรถจักรยานยนต์ ได้ที่บริเวณถนนสายบ้านไทรเดี่ยว อำเภอคลองหาด จังหวัดสระแก้ว



เบื้องต้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นเพียงผู้ถูกว่าจ้าง ให้ขับรถเพื่อนำไปส่งขายตามชายแดนไทย-กัมพูชา จึงถูกแจ้งข้อหา "พยายามนำรถจักรยานยนต์ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านพิธีการทางศุลกากร" และจะมีการขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการนี้ต่อไป


ก.คลัง เตรียมหาแนวทางดูแลราคาเชื้อเพลิง

กระทรวงการคลัง และกระทรวงพลังงานเตรียมนำเสนอมาตรการลดค่าครองชีพประชาชน โดยเฉพาะการดูแลราคาเชื้อเพลิง หลังราคาน้ำมันและก๊าซ LPG ปรับตัวสูงขึ้น โดยจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งอาจจะมีการพิจารณางบประมาณ พ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ที่ยังมีวงเงินเหลือนำมาใช้จ่ายเพื่อพยุงราคาน้ำมันช่วยเหลือประชาชน ส่วนแนวทางการขยายโครงการคนละครึ่ง ว่าจะมีเฟสต่อไปหรือไม่นั้น อยู่ในช่วงประเมิน และขอดำเนินโครงการระยะที่ 4 ให้เสร็จสิ้นก่อน 

Friday, February 11, 2022

ล่าตามจับมิจฉาชีพหลอกซื้อทองคำหนัก 200 บาทหรือมูลค่ากว่า 5 ล้านบาท

 ยุคนี้มิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ คนร้ายทำทีเป็นลูกค้าติดต่อขอซื้อสร้อยคอทองคำมูลค่าเกือบ 3 ล้านบาท จากนั้นให้หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ตรงจุดไหนของประเทศก็ไม่รู้ เป็นคนโอนเงินโดยจ่ายเป็นเช็ก เข้าบัญชีของร้าน แต่สุดท้ายเงินไม่ถูกโอนเข้าบัญชีของร้าน แม้แต่บาทเดียว




เหตุเกิดที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ริมถนนมีชัย เขตเทศบาลเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย โดยช่วงเที่ยงกว่าเมื่อวานนี้ (10 ก.พ.) เจ้าของเดินทาง เข้าแจ้งความทุกข์กับตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ว่าถูกคนร้ายหลอกลวงเอาทองคำ น้ำหนัก 100 บาท คิดเป็นมูลค่า 2.9 ล้านบาท โดยคนร้ายเป็นชาย สวมเสื้อผ้าชุดสีดำ และสวมหน้ากากอนามัยสีดำปิดบังใบหน้า เดินเข้ามาในร้านติดต่อขอซื้อทองคำรูปพรรณน้ำหนัก 100 บาท แบ่งเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท จำนวน 4 เส้น และสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท จำนวน 12 เส้น โดยอ้างว่าต้องการนำทองคำทั้งหมดไปแจกลูกค้าและญาติพี่น้อง รีวิวการ์ตูนอนิเมะ




หลังจากเจรจาซื้อขายเสร็จแล้ว ชายคนร้ายได้ขอเลขบัญชีของทางร้าน พร้อมกับโทรศัพท์คุยกับคนปลายสายบอกให้โอนเงินเข้าบัญชีทางได้เลย ซึ่งเมื่อทางร้านโทรศัพท์ไปสอบถามธนาคารที่เปิดบัญชีไว้ พบว่ามีเงินจำนวน 2.9 ล้านบาท ถูกโอนเข้าบัญชีจริง โดยสั่งจ่ายเป็นเช็ก จึงมอบสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 100 บาท ให้ชายดังกล่าวถือเดินออกจากร้านไปอย่างรวดเร็ว กระทั่งผ่านไปประมาณ 15 นาที เจ้าของร้านกลับไปเปิดอ่านข้อความที่ธนาคารส่งมาทางโทรศัพท์ซ้ำอย่างละเอียดอีกครั้ง ถึงรู้ว่าเช็กที่สั่งจ่ายมานั้นเป็นเช็กเคลียริ่ง จึงพยายามติดต่อสอบถามชายที่มาติดต่อซื้อทองคำ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมั่นใจว่าต้องเป็นมิจฉาชีพ จงใจมาถูกหลอกลวงอย่างแน่นอน




พันตำรวจเอก ยุทธนา งามชัด ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย เปิดเผยว่า เบื้องต้นเท่าที่ตรวจสอบชื่อเจ้าของบัญชีที่ออกเช็กใบดังกล่าว ชื่อ นางสาวพิชชาภา อายุ 47 ปี พบมีประวัติเคยก่อคดีลักษณะนี้ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ส่วนชายคนร้ายที่เข้ามาติดต่อซื้อทองคำในร้าน ซึ่งได้เขียนชื่อ นายสรวิทย์ เป็นชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย ทิ้งไว้ให้เจ้าของร้าน ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างตรวจสอบฐานข้อมูลในทะเบียนราษฎร์ คาดว่าเป็นชื่อและที่อยู่ปลอม




ทั้งนี้ จากการไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเริ่มตั้งแต่ภายในร้านทองที่เกิดเหตุ เห็นชายคนร้ายถือถุงบรรจุสร้อยคอทองคำเดินออกมา ก่อนจะหายไปจากมุมกล้องโดยไม่พบว่าคนร้ายหลบหนีไปด้วยยานพาหนะชนิดใด เบื้องต้นตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะนำรถไปจอดไว้ตรงจุดใดจุดหนึ่ง ภายในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย แล้วเดินมายังร้านทอง เพื่อก่อเหตุ พร้อมกันนี้ผู้กำกับการ สภ.เมืองหนองคาย ฝากเตือนถึงร้านทองว่า หากมีบุคคลแปลกหน้ามาติดต่อซื้อทองคำ ยิ่งเป็นจำนวนมาก ๆ แบบนี้ ทางร้านยิ่งต้องใส่ใจ ตรวจสอบใบหน้า และหลักฐานเอกสารต่าง ๆ โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชนให้ชัดเจนก่อนจะมอบทองคำให้ไป เพราะมิจฉาชีพอาจจะใช้ช่องว่างนี้ฉวยจังหวะที่ร้านไม่ทันระวังลงมือก่อเหตุ


รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "...