Friday, December 24, 2021

เจ้าหน้าที่บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้มตุ๋นเงินไปได้มากกว่า 300 ล้าน

มีมาเลื่อนๆจริงๆ สำหรับแก๊งคอลเซ้นเตอร์ที่ออกมาหลอกลวงชาวบ้านอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ข่มขู่และเรียกเงินจากประชาชนซึ่งในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคุมและสืบสวนคดีแจ้งว่าได้เงินไปมากกว่า 300 ล้านบาท


 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งพัสดุข้ามชาติ โทรหลอกคนไทยว่าส่งพัสดุผิดกฎหมาย พัวพันกับการฟอกเงิน แล้วโอนสายให้คุยกับคนร้ายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หลอกให้โอนเงินเข้ามา มีผู้เสียหายในประเทศไทยถูกหลอกลวงนับ 100 ราย หนึ่งในนั้นคือดาราคู่รัก ฮั่นและจียอน ที่พนักงานบริษัทถูกหลอกลวง คดีนี้มีความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท

คดีนี้ ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ร่วมกับกระทรวงดีอีเอส ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา ร่วมตรวจค้นอาคารต้องสงสัย 2 แห่ง ใน 2 เมืองของประเทศกัมพูชา หลังแกะรอยพบว่าทั้งสองแห่งเป็นจุดที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยใช้เป็นแหล่งกบดานในการกระทำความผิด




โดยจุดแรกเป็นอาคารคาสิโนหลังหนึ่ง กลางเมืองสีหนุวิลล์ จังหวัดกำปงโสม จากการตรวจค้นบนชั้นที่ 10 ของอาคารซึ่งเช่าช่วงจากบ่อนคาสิโน พบชาวไทยกำลังติดต่อใช้อุปกรณ์คอลเซ็นเตอร์ติดต่อสื่อสาร จึงเข้าดำเนินการควบคุมตัวคนไทยทั้งหมด  32 คน นอกจากนี้ยังพบคนต่างชาติอื่น ๆ อีกด้วย ชุดสืบสวนจึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาสอบสวน


ส่วนจุดที่สอง  เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารที่พักแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบินแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ พบว่าเป็นอาคาร 8 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดพร้อมกับติดรั้วลวดหนามที่กำแพง จากการตรวจค้นพบ คนจีน 5 คน และคนไทย 7 คน อยู่ในอาคารดังกล่าว  หนึ่งในนั้นคือ นายพยัคฆพล ชิงหลู่ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ที่ถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงต้นเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฟอกเงิน

ทั้งนี้มีการแถลงผลความสำเร็จการจับกุมร่วมของ 2 ประเทศ โดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ หัวหน้าชุด PCT บอกกับทีมข่าวว่า คนร้ายใช้สคริปข้อความหลอกเหยื่อคนไทยจากการรับแจ้ง ต้ังแต่เดือนกันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้เสียหายชาวไทย 60 ราย มูลค่าความเสียหายรวมท้ัง 73 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคารที่ใช้ทําความผิด รวมความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเชื่อว่ายังมีผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกหลายราย และอาจมีความเสียหายถึง 200-300 ล้านบาท


เบื้องต้นพบว่าคนไทยทั้งหมดลักลอบเดินทางออกจากเมืองไทยทางช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านนายหน้าซึ่งเชื่อว่ามีนายทุนใหญ่เป็นคนจีนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา หากสอบสวนพบการกระทำความผิดใด จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนนายพยัคฆพลถือเป็นตัวการใหญ่ที่ทำหน้าที่โอนเงินผ่านบัญชีต่าง ๆ ให้กับขบวนการนี้  เจ้าหน้าที่ได้อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว และจะดำเนินการยึดทรัพย์ตามขั้นตอนของ ป.ป.ง. ต่อไป

No comments:

Post a Comment

รวบตัว "พ่อแต๊ก" พ่อนิกกี้ ณฉัตร โดนคดีพยายามฆ่า

 การเข้าตรวจค้นจับกุ่มในครั้งนี้เป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามหมายจับในคดีต่างๆ 17 คดีซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “นายวรเชษฐ จันทพันธ์" หรือ "...