สามีมีอารมณ์ ภรรยาไม่ยอมนอนด้วย โมโหจุดไฟเผาบ้าน

 วันนี้ (30 ธ.ค.64) เจ้าหน้าที่ สภ.เมืองกระบี่ รับแจ้งเหตุมีคนเมาอาละวาด จุดไฟเผาบ้านได้รับความเสียหาย เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ หลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองกระบี่ รีบเดินทางไประงับเหตุ

มี่รับแจ้งพบกับนายเลิศศักดิ์ อายุ 53 ปี มีอาการมึนเมาอย่างหนัก ตะโกนเอะอะโวยวายอยู่หน้าบ้าน สอบถามจากญาติที่อยู่ที่เกิดเหตุ ทราบว่านายเลิศศักดิ์ เมาแล้วก่อเหตุจุดไฟเผาในบ้าน แล้วพยายามจะทำร้ายญาติ เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปพูดคุยแต่นายเลิศศักดิ์ กลับพยายามจะเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงต้องช่วยกันจับตัวใส่กุญแจมือไว้ ก่อนจะพูดคุยสอบถามถึงสาเหตุ แต่เจ้าตัวพูดคุยไม่รู้เรื่อง บอกเพียงไม่พอใจที่จะขอหลับนอนกับภรรยาแล้วภรรยาไม่ให้ร่วมหลับนอนจึงโมโห และทะเลาะกัน จนเกิดเหตุดังกล่าว

ต่อมาพบกับนางวิไล  ภรรยาของนายเลิศศักดิ์ พาเจ้าหน้าที่ไปดูจุดเกิดเหตุ เป็นห้องนอนด้านหลังบ้าน สภาพภายในห้อง ถูกไฟเผาข้าวของเสียหายหลายอย่าง ทั้งเสื้อผ้า ที่นอน ตู้เสื้อผ้า ฝ้าเพดาน จึงแจ้งให้พนักงานสอบสวนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เนื่องจากเจ้าของบ้านคือ น.ส.ยินดี ซึ่งเป็นน้องสาวของนางวิไล ต้องการจะแจ้งความดำเนินคดีข้อหาวางเพลิงทำให้ทรัพย์สินเสียหาย ตำรวจจึงคุมตัวนายเลิศศักดิ์ ไปขังไว้ที่ สภ.เมืองกระบี่ เพื่อให้สงบสติอารมณ์ก่อน รวมทั้งตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย แล้วค่อยแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดี

กระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ปัญหา ราคาหมูแพง

 กระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ปัญหา หมูแพง หลังตรวจสอบพบเนื้อหมูเพิ่มสูง และอาจปรับขึ้นทะลุ 200 บาท ชี้เนื้อหมูในตลาดลดลงเป็นต้นเหตุ

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน รายงานผลการติดตามสถานการณ์ราคาหมูเนื้อสีแดง ซึ่งพบว่าราคาปรับตัวสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้

โดยราคาจำหน่ายหมูเนื้อแดงไม่ตัดแต่งในตลาดสดทั่วไปอยู่ที่ 160-180 บาท/กก. กรณีที่เป็นเขียงหรือตลาดสดเล็ก ๆ ที่รับมาเป็นทอดที่สองหรือที่สาม จะมีราคาปรับสูงขึ้นอีก 10 -20 บาท/กก. สำหรับห้างค้าปลีกค้าส่งราคาจำหน่ายปลีกอยู่ที่ 139-145 บาท/กก.

จากการประชุมหารือร่วมกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ พบว่าขณะนี้ปริมาณหมูที่เข้าสู่ตลาดลดลงทำให้มีพ่อค้าเสนอแข่งราคารับซื้อสูงขึ้น ในเบื้องต้นกรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือให้ผู้เลี้ยงสุกรจำหน่ายให้กับผู้ค้ารายเดิมเป็นลำดับแรก สำหรับในด้านปริมาณสุกรที่เข้าสู่ตลาดที่ลดลง กรมปศุสัตว์จะได้ประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาสถานการณ์

อย่างไรก็ตาม โครงการพาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot14 (หมูเนื้อแดง) จำหน่ายในราคา 130 บาท/กก. จำนวน 667 จุด ทั่วประเทศ ซึ่งจะดำเนินการไปจนถึง 31 ธ.ค. ทั้งนี้ หากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่ปิดป้ายแสดงราคา หรือจำหน่ายสินค้าแพงเกินสมควร สามารถแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ

"น้องเต้ย" สาว 23 ปี ถูกแทงดับคาคอนโดย่านบางพลี

 สุดเศร้า เพื่อนร่วมโพสต์แสดงความอาลัย "เต้ย" สาวพิจิตรวัย 23 ปี หลังโดนชายวัย 41 แทงเสียชีวิตในคอนโด

จากกรณีคดีสุดสะเทือนใจ คนร้ายเพศชายบุกเข้าไปก่อเหตุใช้มีดแทง น.ส.อินทุอร กอหาร อายุ 23 ปี จนเสียชีวิตในคอนโดย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลัง ไล่ล่าคนร้าย พร้อมปิดตึกค้นจนครบ 244 ห้อง

ล่าสุดวันอาทิตย์ที่ 26 ธ.ค. 2564 ตำรวจได้คุมตัวชายวัย 41 ปี ผู้ต้องสงสัยซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ชั้น 3 อาคารเดียวกับที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ หลังจากเจ้าหน้าที่ไปพบหลักฐานบางอย่างที่เชื่อมโยงในคดีนี้ ซึ่งคนร้ายรับสารภาพแล้ว ว่าได้กระทำการดังกล่าวจริงเนื่องจากจำนนต่อหลักฐาน

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของ น.ส.อินทุอร หรือ เต้ย พบว่ามีเพื่อนเข้ามาโพสต์อาลัย และแสดงความเสียใจกับครอบครัวกันเป็นจำนวนมาก พร้อมขอให้วิญญาณผู้เสียชีวิตไปสู่สุคติ.

เจ้าหน้าที่บุกจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้มตุ๋นเงินไปได้มากกว่า 300 ล้าน

มีมาเลื่อนๆจริงๆ สำหรับแก๊งคอลเซ้นเตอร์ที่ออกมาหลอกลวงชาวบ้านอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ข่มขู่และเรียกเงินจากประชาชนซึ่งในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคุมและสืบสวนคดีแจ้งว่าได้เงินไปมากกว่า 300 ล้านบาท

 เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ต้องหาคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีพฤติกรรมอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งพัสดุข้ามชาติ โทรหลอกคนไทยว่าส่งพัสดุผิดกฎหมาย พัวพันกับการฟอกเงิน แล้วโอนสายให้คุยกับคนร้ายที่อ้างตัวเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ หลอกให้โอนเงินเข้ามา มีผู้เสียหายในประเทศไทยถูกหลอกลวงนับ 100 ราย หนึ่งในนั้นคือดาราคู่รัก ฮั่นและจียอน ที่พนักงานบริษัทถูกหลอกลวง คดีนี้มีความเสียหายรวมกว่า 100 ล้านบาท

คดีนี้ ตำรวจศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ PCT ร่วมกับกระทรวงดีอีเอส ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคงกัมพูชา ร่วมตรวจค้นอาคารต้องสงสัย 2 แห่ง ใน 2 เมืองของประเทศกัมพูชา หลังแกะรอยพบว่าทั้งสองแห่งเป็นจุดที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยใช้เป็นแหล่งกบดานในการกระทำความผิด

โดยจุดแรกเป็นอาคารคาสิโนหลังหนึ่ง กลางเมืองสีหนุวิลล์ จังหวัดกำปงโสม จากการตรวจค้นบนชั้นที่ 10 ของอาคารซึ่งเช่าช่วงจากบ่อนคาสิโน พบชาวไทยกำลังติดต่อใช้อุปกรณ์คอลเซ็นเตอร์ติดต่อสื่อสาร จึงเข้าดำเนินการควบคุมตัวคนไทยทั้งหมด  32 คน นอกจากนี้ยังพบคนต่างชาติอื่น ๆ อีกด้วย ชุดสืบสวนจึงส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาสอบสวน

ส่วนจุดที่สอง  เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นอาคารที่พักแห่งหนึ่งใกล้กับสนามบินแห่งชาติกัมพูชา กรุงพนมเปญ พบว่าเป็นอาคาร 8 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิดพร้อมกับติดรั้วลวดหนามที่กำแพง จากการตรวจค้นพบ คนจีน 5 คน และคนไทย 7 คน อยู่ในอาคารดังกล่าว  หนึ่งในนั้นคือ นายพยัคฆพล ชิงหลู่ อายุ 30 ปี ชาวจังหวัดเชียงราย ที่ถูกออกหมายจับข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงต้นเป็นบุคคลอื่น และร่วมกันฟอกเงิน

ทั้งนี้มีการแถลงผลความสำเร็จการจับกุมร่วมของ 2 ประเทศ โดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ หัวหน้าชุด PCT บอกกับทีมข่าวว่า คนร้ายใช้สคริปข้อความหลอกเหยื่อคนไทยจากการรับแจ้ง ต้ังแต่เดือนกันยายน 2564 ถึงปัจจุบัน พบว่ามีผู้เสียหายชาวไทย 60 ราย มูลค่าความเสียหายรวมท้ัง 73 ล้านบาท นอกจากนี้ยังพบบัญชีธนาคารที่ใช้ทําความผิด รวมความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท โดยเชื่อว่ายังมีผู้ที่ยังไม่ได้แจ้งความอีกหลายราย และอาจมีความเสียหายถึง 200-300 ล้านบาท

เบื้องต้นพบว่าคนไทยทั้งหมดลักลอบเดินทางออกจากเมืองไทยทางช่องทางธรรมชาติโดยผิดกฎหมาย ไปทำงานกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านนายหน้าซึ่งเชื่อว่ามีนายทุนใหญ่เป็นคนจีนที่มีฐานปฏิบัติการอยู่ในกัมพูชา หากสอบสวนพบการกระทำความผิดใด จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด ส่วนนายพยัคฆพลถือเป็นตัวการใหญ่ที่ทำหน้าที่โอนเงินผ่านบัญชีต่าง ๆ ให้กับขบวนการนี้  เจ้าหน้าที่ได้อายัดบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว และจะดำเนินการยึดทรัพย์ตามขั้นตอนของ ป.ป.ง. ต่อไป